ปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม และหนังศีรษะ ไม่ว่าจะปัญหาผมขาดร่วง ผมบาง ศีรษะล้านที่เกิดในคุณผู้ชาย หรือคุณผู้หญิงก็สร้างความรู้สึกหนักใจ ลดความมั่นใจของคุณทุกครั้งที่ส่องกระจกได้ ในปัจจุบันจึงมีทั้งคลินิกปลูกผม สถาบันปลูกผมเกิดขึ้นมากมายเพื่อแก้ปัญหาเส้นผมเหล่านี้ให้หมดไปด้วยวิธีการปลูกผม ช่วยให้ผมของคุณดูมีผมหนามากขึ้น เสริมสร้างความมั่นใจของคุณให้กลับมาเต็มร้อย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นท่ามกลางการแข่งขัน และโหมโฆษณากันมากมายจากสถาบันปลูกผมต่าง ๆ ทำให้ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมเกิดความลังเลใจว่าแล้ว “ปลูกผมที่ไหนดี?” เพราะการปลูกผมนั้นมีขั้นตอน และวิธีการทำที่ละเอียดอ่อนกว่าที่คุณคิด ทำให้ในการคาดหวังผลลัพธ์จากการรักษาที่ดี และเหมาะสมกับตัวคนไข้เอง ต้องเลือกคลินิกปลูกผมที่มีความน่าเชื่อถือมาเป็นอันดับแรก วันนี้ทางเราจึงพร้อมมาแบ่งปันข้อมูลในการเลือกปลูกผมที่ไหนดีที่สุดมาให้ผู้อ่านทุกท่านกันค่ะ
ปลูกผมถาวรที่ไหนดี
คุณหมอเชื่อว่าคำถามที่ว่า “รักษาผมบางที่ไหนดี? ปลูกผมที่ไหนดี?” คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นคำถามแรกในผู้มีปัญหาเส้นผมอย่างแน่นอน ซึ่งคุณหมอคิดว่าถูกต้องแล้วค่ะที่คนไข้นึกสงสัย และใส่ใจกับจุดนี้เป็นพิเศษ เพราะการปลูกผมเป็นการรักษาที่ซับซ้อน จำเป็นต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความชำนาญและเทคนิคเฉพาะ
ไม่เพียงแค่ความสามารถและประสบการณ์ในการรักษาของแพทย์เท่านั้น แต่คลินิกปลูกผมที่ดีจะต้องสะอาด และมีอุปกรณ์ในการรักษาที่ทันสมัย สะอาด ครบครัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดระหว่างรักษา หรือคนไข้ได้รับผลลัพธ์ไม่ตรงตามความต้องการ เกิดผลข้างเคียงอันตรายอันไม่พึงประสงค์ ผู้ที่สนใจจะทำการปลูกผมจึงควรศึกษาและสำรวจดูให้ดีว่าควรปลูกผมที่ไหนดี คลินิกไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด
1.แพทย์มีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์
เริ่มต้นที่จุดแรกเลยนะคะ ที่คนไข้ควรพิจารณาว่าปลูกผมถาวรที่ไหนดีเลยก็คือ แพทย์ที่ทำการรักษาประจำอยู่ที่คลินิกจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านโรคเส้นผม และการผ่าตัดปลูกถ่ายผม รวมถึงมีประสบการณ์ทำงานในด้านนี้มาอย่างยาวนาน
เพราะการปลูกผมนั้นเป็นการรักษาที่ต้องมีการวางแผน ออกแบบ และขั้นตอนระหว่างผ่าตัดปลูกผมที่ละเอียด พร้อมทั้งแพทย์จะต้องสามารถอธิบายขั้นตอน และตอบข้อสงสัยของคนไข้ได้อย่างกระจ่าง ดังนั้นทีมแพทย์และผู้ช่วยแพทย์จะต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษ และที่สำคัญที่สุดศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัด ต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากสภาวิชาชีพของแพทย์ หรือแพทยสภา เพื่อเป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าแพทย์ที่ทำการรักษามีความสามารถมากเพียงพอนั่นเองค่ะ
2.คลินิกปลูกผมต้องได้มาตรฐาน
จุดถัดมาที่คนไข้ไม่ควรพลาดในการตรวจสอบว่าจะปลูกผมที่ไหนดี ก็คือตัวคลินิกต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือที่สะอาด ปลอดเชื้อ และมีคุณภาพ เช่น เครื่องเจาะและหัวเจาะชนิด Hybrid ปากกาปลูกผม (Implanter Pen) กล้องจุลทรรศน์สำหรับคัดกราฟท์โดยเฉพาะ รวมทั้งน้ำยาแช่กราฟท์เองก็ต้องมีคุณภาพเพียงพอที่จะเก็บรักษาสภาพกราฟท์ให้สภาพดีคงอยู่ ขณะรอนำไปปลูกผมบนหนังศีรษะ
นอกจากนี้ตัวคลินิกเองจะต้องเป็นคลินิกปลูกผมที่ได้มาตรฐานตามหลักสากลของกระทรวงสาธารณสุข โดยที่บริเวณหน้าร้านจะต้องมีเอกสารรับรองที่ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุขติดไว้ให้เห็นชัดเจน เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองว่าทางคลินิกนั้นปลอดภัย และถ้าหากทำการผ่าตัดศัลยกรรม แล้วเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา เช่น การอักเสบ การติดเชื้อคนไข้จะสามารถร้องเรียนเรียกค่าเสียหายได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
3.วิธีการปลูกผมที่เลือกใช้
การปลูกผมในคนไข้ทั้งคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิงที่ไหนดีนั้น อีกหนึ่งจุดที่ควรพิจารณาก็คือคลินิกที่คนไข้จะทำนั้น มีวิธีการปลูกผมที่เหมาะสมกับปัญหาเส้นผม ปัญหาหนังศีรษะของคุณหรือไม่ ดังนั้นจึงควรเข้าไปปรึกษาและพูดคุยกับคุณหมอประจำคลินิกก่อนที่จะเข้ารับการรักษาว่าคนไข้เหมาะกับวิธีการรักษาของคลินิกหรือไม่
ซึ่งในปัจจุบันวิธีการปลูกผมแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีนะคะ ได้แก่ การปลูกผมด้วยวิธีผ่าตัด (FUT) และการปลูกผมด้วยวิธีเจาะ (FUE)
- การปลูกผมด้วยวิธีผ่าตัด (FUT) เริ่มขั้นตอนแรกเลยที่ศัลยแพทย์จะทำการกำจัดขน และทำเครื่องหมายในบริเวณที่ต้องการ แล้วคุณหมอจะเริ่มฉีดยาชา แล้วจึงค่อย ๆ ตัดผิวหนังบริเวณที่มีรูขุมขนเพียงพอต่อการปิดศีรษะล้านออกมาจากหนังศีรษะ แล้วคุณหมอจะเอาแถบรูขุมขนนี้มาเตรียมการสำหรับการปลูกถ่าย แล้วจึงสอดเข้าไปบริเวณหนังศีรษะล้าน และเย็บปิด
- การปลูกผมด้วยวิธีเจาะ (FUE) เป็นอีกหนึ่งวิธีการปลูกผมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะคนไข้ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด รู้สึกเจ็บน้อยกว่า และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนเร็วกว่าวิธีผ่าตัด โดยวิธีการนี้เป็นการใช้เข็มเจาะรอบ ๆ รากผมบริเวณด้านหลังศีรษะที่มีจำนวนรูขุมขนอยู่มาก แล้วจึงค่อยย้ายเซลล์รากผมออกมาทีละช่อผมด้วยคีม จึงค่อยนำไปปลูกลงในบริเวณที่ศีรษะล้าน
4.บริการจากทางคลินิก

อีกหนึ่งจุดที่คุณลูกค้าหลาย ๆ คนนำมาพิจารณาร่วมด้วยในการตัดสินใจว่าปลูกผมที่ไหนดี ก็คือการบริการจากทางคลินิกเพราะสิ่งแรกที่จะพิชิตใจคุณลูกค้าที่เข้ามาคลินิกได้ คือการบริการจากพนักงานต้อนรับ เพราะเป็นด่านแรกที่ลูกค้าจะต้องพบเจอก่อนที่จะเข้ารับการปรึกษากับคุณหมอ ดังนั้นแน่นอนว่าถ้าพนักงานให้การบริการที่ดีต่อลูกค้า พูดจากระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย สามารถแนะนำข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลในการรักษาเบื้องต้นได้ จะเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับทางคลินิกมากยิ่งขึ้น
5.ราคาปลูกผมและงบประมาณ
คำถามที่ว่าปลูกผมที่ไหนดี เรื่องของงบประมาณก็เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจอยู่ไม่น้อย ด้วยงบประมาณที่จำกัด ทำให้ลูกค้าหลาย ๆ คนเริ่มมองหาคลินิกปลูกผมที่ไหนดี ราคาไม่แพงเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งในการปลูกผมนั้นราคาในการรักษาก็จะแตกต่างกันไปตามวิธีที่คนไข้เลือกรักษาความชำนาญ และประสบการณ์ของแพทย์ ดังนั้นคุณลูกค้าเองก็ควรวางแผนคำนวณงบประมาณให้ดีก่อนตัดสินใจ พร้อมพิจารณาว่าผลงานการรักษาจากทางคลินิกสมเหตุสมผลหรือไม่ แต่ที่สำคัญคุณหมอก็อยากจะเน้นย้ำกับคุณลูกค้าอยู่เสมอนะคะว่าอย่าเห็นแก่การบริการถูกมากจนเกินไป ควรพิจารณาเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาเป็นอันดับแรก ๆ นะคะ
6.การเดินทางและสถานที่

เนื่องจากการปลูกผมเป็นหัตถการที่ใช้เวลาในการรักษาเป็นระยะเวลานาน ทำให้คนไข้ควรเลือกรับบริการในคลินิกที่มีสภาพแวดล้อมกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน ทันสมัย สวยงาม มีความเป็นส่วนตัว และมีส่วนต่าง ๆ บริการให้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น มีห้องน้ำภายในคลินิก หรือมีที่นั่งรองรับญาติคนไข้
รวมถึงสถานที่ตั้งของคลินิกเองก็ควรจะอยู่ในบริเวณที่คนไข้เดินทางได้สะดวก เพราะว่าคนไข้จำเป็นต้องเดินทางมาที่คลินิกหลายครั้ง ตั้งแต่ขั้นตอนเข้ารับการปรึกษา ขั้นตอนการรักษา และขั้นตอนหลังการรักษาที่ต้องคอยมาตรวจดูอาการเป็นระยะ ทำให้เรื่องของความสะดวกในการเดินทาง และสถานที่จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คุณหมออยากให้คนไข้นำมาพิจารณาดูค่ะว่าควรปลูกผมที่ไหนดี
7.การดูแลหลังการผ่าตัดปลูกผมอย่างต่อเนื่อง
ไม่ใช่ว่าคนไข้เข้ารับการรักษาจากทางคลินิกเสร็จแล้ว คนไข้จะไม่ต้องกลับมาที่คลินิกซ้ำอีกครั้งนะคะ คนไข้ยังจำเป็นต้องกลับมาที่คลินิกซ้ำตามระยะเวลาที่แพทย์กำหนด เพื่อเข้ามาตรวจดูผลลัพธ์หลังการปลูกผมทุก 7 วัน 1 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี เพราะการปลูกผมไม่ได้เห็นผลลัพธ์ในทันทีหลังทำ
คุณหมอจะค่อยเรียกคนไข้มาสังเกตการเปลี่ยนแปลงเรื่อย ๆ จนเส้นผมขึ้นครบสมบูรณ์ ทำให้ช่วงเวลา 1 ปีแรกหลังปลูกผม จะต้องมีการแวะมาดูอาการกับคุณหมออย่างเคร่งครัด ดังนั้นหากคลินิกไหนไม่มีการติดตามผล และการดูแลอื่น ๆ เพิ่มเติมอย่างการทำทรีตเมนท์บำรุงเส้นผม Pora Cool Hair หรือฉายแสง LED Therapy ก็อาจจะต้องมองหาคลินิกอื่น ๆ แทน
8.มีรีวิวปลูกผมที่น่าเชื่อถือ
หมอคิดว่าคุณคนไหนที่สนใจจะปลูกผมนั้น และกำลังตัดสินใจว่าจะปลูกผมที่ไหนดี คงจะทำการค้นหาในโลกออนไลน์ เพื่อดูผลงานการปลูกผมของแต่ละคลินิกที่สนใจกันไม่น้อย
ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้ในการประกอบการตัดสินใจได้จริง เพราะยิ่งเห็นผลงานที่ผ่านมามีผลลัพธ์ที่ดี และมีผลงานแน่น ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าตัดสินใจมารักษานั่นเอง แต่ที่สำคัญคุณลูกค้าทุกท่านต้องตั้งใจสังเกตดูรูปผลงานให้ดีนะคะ ว่าไม่ได้ผ่านการตัดต่อ หรือแต่งภาพขึ้นมา
ปลูกผมที่ Dr.Tarinee Hair Clinic
หนึ่งคลินิกที่รับประกันคุณภาพที่อยากจะแนะนำให้กับผู้อ่านทุกท่านรู้จักกับ “Dr.Tarinee Hair Clinic” คลินิกปลูกผมเฉพาะทางที่ดูแลโดยแพทย์หญิงธารินี ก่อวิริยกมล หรือหมอแก้ว แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคเส้นผม และศัลยกรรมการปลูกผมจากโรงพยาบาลศิริราช ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านนี้มามากกว่า 15 ปี และดูแลด้านเส้นผมมามากกว่า 3000 เคส
ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic คุณหมอแก้วจะดูแลคนไข้ทุกคนเอง เพราะว่าปัญหาหนังศีรษะ และเส้นผมของคนไข้แต่ละท่านมีลักษณะที่แตกต่างกันไป และคุณหมอจะช่วยดูแลคนไข้อย่างต่อเนื่อง พร้อมตอบทุกปัญหาข้อสงสัยที่ค้างคาใจคนไข้
และที่สำคัญที่ Dr.Tarinee Hair Clinic เป็นคลินิกรักษาปัญหาเส้นผมที่ไม่เหมือนใคร เพราะทางคลินิกจะรักษาคนไข้ด้วยการปลูกผมถาวรแบบ FUE โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัด และไม่ต้องโกนผม หรือโกนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และยังมีบริการดูแลหลังปลูกผมอย่างการใช้ยาทรีตเมนต์ ใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง การกระตุ้นรากผมลดผมร่วงด้วย PRP หรือการฉายแสง Laser Hair Growth เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์รากผม
เพียงเท่านี้ก็คงจะตอบคำถามในใจผู้อ่านหลาย ๆ ท่านได้แล้วว่า “ปลูกผมที่ไหนดี?” ลองให้คลินิก “Dr.Tarinee Hair Clinic” ดูแลเส้นผมของคุณสิคะ
สรุป
คุณหมอเชื่อว่าผู้อ่านหลาย ๆ ท่านที่ได้อ่านบทความ “ปลูกผมที่ไหนดี”ในตอนนี้คงพอจะได้คำตอบ และมองเห็นแนวทางที่จะนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกคลินิกปลูกผมได้ง่ายขึ้น ตรงใจคุณลูกค้า และได้ผลลัพธ์ออกมาดีสุดอย่างแน่นอน
และท้ายที่สุดนี้ถ้าผู้อ่านคนไหนสนใจที่อยากเข้ามาปรึกษาเรื่องปัญหาเส้นผม และปัญหาหนังศีรษะ กับคุณหมอแก้ว สามารถติดต่อ Dr.Tarinee Hair Clinic ได้ที่อาคาร Move Amaze ชั้น 2 ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 19 วันอังคาร – อาทิตย์ เวลา 8.00 – 19.00 น. หรือตามช่องทางต่อไปนี้ได้เลยค่ะ
เบอร์โทร : 088 – 951 – 9193
Line : @Drtarinee
FB : DrTarineeHairClinic