ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจไม่ใช่น้อย แม้จะใช้แชมพูเร่งผมหนาหรือยาแก้ผมร่วง ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ การศัลยกรรมปลูกผมบาง ผมร่วงที่ช่วยให้ผมขึ้นได้จริงแบบถาวร จึงกลายเป็นทางออกของใครหลายคน
ทั้งนี้ การปลูกผมเป็นหัตถการที่ต้องดำเนินการด้วยแพทย์เฉพาะทาง ผู้ที่สนใจปลูกผมจึงควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนค่ะ ในบทความนี้หมอจะมาพามารู้จักการปลูกผมให้มากขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณค่ะ
การปลูกผม คืออะไร
การปลูกผม (Hair Transplant) คือ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดผมจากท้ายทอยมาปลูกถ่ายยังบริเวณที่ต้องการรักษา หรือปลูกถ่ายเพิ่มแนวไรผม เพื่อเสริมให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ละมุนขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถปลูกผมทับรอยแผลเป็นที่แหว่งไปเพื่อปกปิดได้เช่นกัน ซึ่งผมที่ขึ้นมาใหม่นี้ก็สามารถอยู่ได้อย่างถาวร แม้จะโกน ถอน หรือตัดออกไปก็กลับมางอกใหม่ได้เหมือนเส้นผมปกติค่ะ
กราฟผม คืออะไร?
เวลาแพทย์ปลูกผมจะวางแผนด้วย “กราฟต์ (graft)” ซึ่งเป็นหน่วยของกอรากผมที่ย้ายมาจากบริเวณผู้บริจาคไปยังจุดที่ต้องการ ใน 1 กราฟต์มักมีเส้นผมราว 1–4 เส้น ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ผู้ที่เส้นผมหนาแน่นมักมีกราฟต์แบบหลายเส้นมากกว่า จึงช่วยให้ปกปิดได้ดีขึ้นด้วยจำนวนกราฟต์ใกล้เคียงกัน
สาเหตุของปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน เกิดจากอะไร?

ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกผม หรือใช้ยาปลูกผมหัวล้าน เพื่อกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยของอาการผมร่วง ผมบาง หัวล้าน มีดังนี้ค่ะ
- พันธุกรรม เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมบางหรือหัวล้าน โดยเฉพาะในผู้ชาย เรียกว่า Androgenetic Alopecia แต่ผู้หญิงก็สามารถพบได้เช่นกัน
- ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิด อาจส่งผลให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย
- ความเครียด ความเครียดสะสมหรือเหตุการณ์กระทบจิตใจรุนแรง ทำให้เส้นผมเข้าสู่ช่วงหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ
- ภาวะโภชนาการไม่สมดุล การขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก หรือวิตามินบี ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคไทรอยด์ ภูมิแพ้ หรือโรคผิวหนังบางชนิด อาจเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้ผมร่วงผิดปกติ
- การใช้ยาบางชนิด เช่น เคมีบำบัด หรือยาลดไขมันในเลือด อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผมร่วง
- การดูแลเส้นผมไม่ถูกวิธี การทำสี ดัด ยืดผมบ่อย ๆ หรือสระผมด้วยน้ำร้อน ล้วนส่งผลให้ผมอ่อนแอและขาดหลุดร่วงง่าย
ทั้งนี้ ปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านสามารถทำการรักษาได้ หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาลดระดับฮอร์โมน การใช้ยาทาภายนอก การรักษาด้วยเลเซอร์ โปรแกรมฉีด PRP ผม และการศัลยกรรมปลูกผม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านของแต่ละคนจะมีความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก็ควรปรึกษาคุณหมอก่อนทำการรักษาทุกครั้งนะคะ
การปลูกผมเหมาะกับใครบ้าง
การปลูกผมจะเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหน้าผากกว้างได้ดี แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคน การพิจารณาความเหมาะสมของคนไข้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลการรักษาที่น่าพอใจ โดยกลุ่มคนไข้ที่เหมาะสมกับการปลูกผมมีดังนี้ค่ะ
- การปลูกผมเหมาะกับคนที่ใช้การรักษาแบบอื่น แล้วยังไม่ได้ผล
- คนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจและเป็นที่กังวลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
- คนไข้ที่มีปัญหาหน้าผากเถิก หน้าผากกว้างและเป็นลักษณะที่คนไข้ไม่ต้องการ
- คนไข้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น
การปลูกผมไม่เหมาะกับใครบ้าง
การปลูกผมมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ทำให้คนไข้อีกหลาย ๆ คนที่มีปัญหาลักษณะนี้ไม่เหมาะกับหัตถการนี้
- คนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางทั่วศีรษะ เนื่องจากจะทำให้มีจำนวนกราฟผมไม่เพียงพอต่อการนำไปปลูกผมและทำให้บริเวณที่นำผมออกบางลงได้
- คนไข้ที่มีการอักเสบบนหนังศีรษะและโรคยังอยู่ในช่วงกำเริบ เช่น หนังแข็ง ผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงจากพังผืดใต้ผิว เป็นต้น
- คนไข้ที่มีโรคประจำตัวที่เป็นสาเหตุของการหลุดร่วงของเส้นผม เช่น แพ้ภูมิตัวเอง
- คนไข้โรคมะเร็งที่อยู่ในช่วงการรักษา
- คนไข้ที่ติดเชื้อบนหนังศีรษะหรือติดเชื้อในกระแสเลือด
- คนไข้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก
- คนไข้สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร
ข้อดีของการปลูกผม มีอะไรบ้าง
การปลูกผมมีข้อดีมากมายที่ควรรู้ ไม่เพียงช่วยรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ทั้งจากอายุและกรรมพันธุ์เท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ปัญหาผมแหว่งจากแผลเป็นได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย และช่วยปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้น ผมที่ปลูกใหม่สามารถงอกและเจริญเติบโตได้เหมือนผมธรรมชาติ และถึงแม้จะปลูกผมเพียงครั้งเดียวด้วยวิธี FUE หรือ FUT ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวรได้
ข้อจำกัดของการปลูกผม มีอะไรบ้าง
การปลูกผมมีข้อจำกัดสำคัญที่คนไข้ควรทราบค่ะ โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังปลูกผม คนไข้ต้องดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด เนื่องจากกราฟผมอาจหลุดออกมา และไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ อีกทั้งวิธีนี้ยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมบางทั่วศีรษะ หรือมีผมร่วงเป็นหย่อม เพราะต้องอาศัยรากผมที่แข็งแรงในปริมาณมากค่ะ และในบางกรณี เช่น ผู้ที่มีโรคทางหนังศีรษะหรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง การปลูกผมอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม
เทคนิคการปลูกผม มีกี่วิธี

การปลูกผมเพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง แบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่ การปลูกผม FUE และการปลูกผม FUT ค่ะ ในหัวข้อนี้หมอจะพาไปดูว่าการปลูกผมมีวิธีอะไรบ้าง และแต่ละวิธีต่างกันอย่างไรค่ะ
ปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction)
เทคนิคปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลใหญ่ คุณหมอจะใช้หัวเจาะขนาดเล็กดูดกราฟผมออกจากบริเวณท้ายทอยทีละกอ แล้วนำไปปลูกผมในจุดที่มีปัญหาผมบางหรือหัวล้าน ซึ่งจุดเด่นของเทคนิคปลูกผม FUE ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นชัดเจน ฟื้นตัวเร็ว และเส้นผมที่ขึ้นใหม่ดูเป็นธรรมชาติ
ปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Extraction)
เทคนิคปลูกผม FUT หรือ Strip Method คือการผ่าตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยเป็นแนวยาวเพื่อนำเซลล์ต้นกำเนิดผมออกมา แล้วนำไปแยกกราฟภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ก่อนปลูกผมกลับในจุดที่ต้องการ ซึ่งจุดเด่นของเทคนิคปลูกผม FUT จะทำให้กราฟผมมีความสมบูรณ์ เหมาะกับผู้ที่ต้องปลูกผมในพื้นที่กว้าง และช่วยให้ผมบริเวณท้ายทอยดูหนาขึ้น
ปลูกผมแบบ DHI (Direct Hair Implantation)
เป็นเทคนิคที่ต่อยอดจากการปลูกผมแบบ FUE โดยจะใช้ Implanter Pen มาใช้บรรจุกราฟต์แล้ว เจาะเพื่อฝังกราฟ ในจังหวะเดียว ไม่ต้องเปิดช่องรับกราฟต์ล่วงหน้าเหมือนวิธีดั้งเดิม ทำให้เส้นผมมีความถี่มากขึ้น และมีความเป็นธรรมชาติมากกว่า
ปลูกผมแบบ LHD (Long Hair DHI)
เป็นเทคนิคที่นำหลักการ DHI มาใช้ สามารถปลูกได้โดยไม่ต้องโกนผมทั้งศีรษะ (อาจเปิดหน้าต่างโกนเฉพาะจุดที่ผู้บริจาค หรือไม่โกนเลย) กราฟต์ถูกฝังลงไปในขณะผมส่วนใหญ่ยัง “ยาว” ทำให้เห็นทิศทาง/การทิ้งตัวของเส้นจริงตั้งแต่วันผ่าตัด เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ผมทันที แต่ราคาจะสูงกว่าทุกแบบ
สามารถปลูกผม ร่วมกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ได้หรือไม่
เราสามารถปลูกผมร่วมกับการรักษาแบบอื่น ๆ ได้ค่ะ และเป็นสิ่งที่หมอแนะนำให้ทำด้วย เพื่อให้การปลูกผมประสบความสำเร็จ และให้ได้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น โดยหัตถการที่นิยมรักษาควบคู่กับการปลูกผมก็มีดังนี้ค่ะ
- การฉายแสงเลเซอร์ LLLT เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้เส้นผมสามารถงอกใหม่ได้เร็วขึ้นค่ะ
- โปรแกรมฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น กระตุ้นผมจะช่วยบำรุงเซลล์ต้นกำเนิดผมให้แข็งแรง ให้แผลหายเร็วขึ้น
- การใช้ยาทาหรือรับประทานยาร่วมกับการปลูกผม เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีภาวะผมบางกรรมพันธุ์ และมีโอกาสผมร่วงในบริเวณที่ไม่ได้ทำการปลูกผม ซึ่งจะทำให้ผมดูบางลงค่ะ
- การรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด เป็นการใช้เซลล์พิเศษช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่และซ่อมแซมรากผมที่อ่อนแอ ให้ผมกลับมาแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
- การรักษาด้วย low level laser ช่วยกระตุ้นรากผมและเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมโดยไม่ต้องผ่าตัด
ก่อนปลูกผม เตรียมตัวอย่างไร?

การเตรียมตัวที่ถูกต้องก่อนทำหัตถการปลูกผม จะสามารถช่วยให้การรักษาประสบความสำเร็จและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกผม มีดังนี้ค่ะ
- นัดหมายวันที่เข้ารับการทำหัตถการปลูกผม โดยพิจารณาไปถึงหลังวันผ่าตัดด้วยว่ามีกิจกรรมหรือธุระใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อการปลูกผมหรือไม่
- หากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือมีภาวะแพ้ยาชาเฉพาะที่ คนไข้ต้องแจ้งให้หมอทราบทันที
- หากคนไข้มียาที่รับประทานประจำหรือกำลังรับประทานยาอยู่ ต้องแจ้งให้คุณหมอทราบทุกครั้ง
- ก่อนทำการปลูกผม 7 วัน คนไข้ต้องงดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี ยาสลายลิ่มเลือด และกลุ่มวิตามินสมุนไพรต่าง ๆ เป็นต้น
- งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ทั้งก่อนและหลังทำหัตถการปลูกผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- ก่อนวันปลูกผม คนไข้ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
- วันเข้ารับการปลูกผม แนะนำให้คนไข้รับประทานอาหารและน้ำมาก่อนค่ะ เพราะการปลูกผมจะใช้เวลาค่อนข้างนานหลายชั่วโมง
- คนไข้ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการถอดเปลี่ยนชุด เช่น เสื้อคอกว้าง หรือเสื้อกระดุมหน้า
ขั้นตอนการปลูกผม มีอะไรบ้าง
การปลูกผมถาวรเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ
- การประเมินเบื้องต้น คุณหมอตรวจสอบสภาพหนังศีรษะและเส้นผมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการผ่าตัดปลูกผมและเลือกเทคนิคปลูกผมที่เหมาะสม
- รับคำแนะนำจากหมอ คุณหมอจะอธิบายรายละเอียดการรักษา ตั้งแต่การเตรียมตัว ขั้นตอนการรักษา ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- จัดเตรียมพื้นที่ เป็นการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ พร้อมถ่ายภาพเพื่อติดตามผลการรักษา
- ออกแบบแนวผม การออกแบบแนวผมแพทย์จะวาดแนวผมที่ต้องการปลูกผมและคำนวณปริมาณกราฟผมที่จำเป็น คนไข้สามารถร่วมออกแบบได้ค่ะ
- เก็บเกี่ยวกราฟผม ซึ่งจะฉีดยาชาเฉพาะที่และดึงเซลล์ต้นกำเนิดผมออกจากบริเวณท้ายทอยด้วยเทคนิค FUT หรือ FUE
- จัดเตรียมกราฟผม นำเอากราฟผมที่แยกออกมาแช่ในน้ำยาพิเศษเพื่อรักษาคุณภาพ คนไข้สามารถพักรับประทานอาหารได้ระหว่างรอ
- การปลูกผมกลับ โดยจะฉีดยาชาบริเวณที่จะปลูกผมและใช้เครื่องมือเจาะนำกราฟผมปลูกกลับเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่
- ฉายแสงรักษา หลังปลูกผมเสร็จจะได้รับการฉายแสงจากเครื่อง Heallite หรือ LLLT เพื่อกระตุ้นให้แผลหายเร็วขึ้น
- ติดตามผล คนไข้สามารถกลับบ้านพักฟื้นได้ หลังจากนั้นแพทย์จะนัดมาฉายแสงอีก 1–2 ครั้งในวันถัดไปเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัว
วิธีการดูแลตนเองหลังปลูกผม
ความสำเร็จของการปลูกผมมักขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ค่ะ ซึ่งหมอก็มีข้อแนะนำในการดูแลตัวเอง ดังนี้
- ช่วง 1-3 วันแรกหลังปลูกผม แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาเพื่อทำความสะอาดแผล เส้นผม และหนังศีรษะให้ค่ะ คนไข้ห้ามสระผมเองในช่วงนี้เด็ดขาด เพราะมีโอกาสสูงที่กราฟผมจะหลุดออกมา
- เมื่อแพทย์อนุญาตให้สระผมเองแล้ว แนะนำให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนหรือแชมพูเด็กอย่างน้อย 1 เดือนค่ะ
- รับประทานยาฆ่าเชื้อให้ครบตามที่แพทย์จ่ายให้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการดื้อยาฆ่าเชื้อในอนาคต
- หากมีอาการปวดแผลผ่าตัด ก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดวันละ 1 เม็ดได้
- แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาดูแผลและติดตามอาการในช่วง 1-5 วันแรก และจะเพิ่มระยะนัดเรื่อย ๆ เพื่อติดตามผล
- หากมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกมาก หนังศีรษะไม่มีความรู้สึก หรือปวดแผลมาก ให้รีบเข้ามาพบแพทย์ทันทีค่ะ
ข้อควรระวังหลังปลูกผม
- งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนและหลังปลูกผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
- งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกหรือสัมผัสกับน้ำ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังปลูกผม
- ห้ามตกแต่ง ตัดแต่งทรง หรือย้อมสีผม หลังปลูกผมอย่างน้อย 4 สัปดาห์
การดูแลรักษาผมระยะยาว ทำได้อย่างไรบ้าง
การดูแลรักษาผมระยะยาวหลังปลูกผมถาวรเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผมงอกออกมาแข็งแรง สวยงาม และอยู่ได้ยาวนาน โดยข้อควรปฏิบัติหลังปลูกผมที่แพทย์แนะนำมีดังนี้ค่ะ
- การดูแลเบื้องต้นและการสระผม หลังศัลยกรรมปลูกผมควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนและสระผมเบา ๆ เพื่อไม่ให้กระทบแผลปลูกผม นอกจากนี้ควรบำรุงหนังศีรษะด้วยเซรั่มเพื่อให้หนังศีรษะชุ่มชื้นและสุขภาพดีค่ะ
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผมหรือเครื่องม้วนผม เนื่องจากอาจทำให้ผมเสียหายได้ ในขณะเดียวกันการจัดการความเครียดก็มีความสำคัญเพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดผมร่วงได้ค่ะ
- บำรุงจากภายใน การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุจะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของผมที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีปลูกผมและผ่าตัดปลูกผมค่ะ
การทำศัลยกรรมปลูกผม มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
การศัลยกรรมปลูกผมไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดปลูกผมหรือปลูกผมไม่ต้องผ่าตัด ย่อมมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกับการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ เช่น แผลจากการปลูกผมอาจเกิดรอยแผลเป็นหรือการติดเชื้อได้ หากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ผมที่ปลูกอาจไม่ขึ้นตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะเมื่อทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นก่อนปลูกผมควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีค่ะ
รีวิวปลูกผมที่ Dr.Tarinee Hair Clinic


ปลูกผม ราคาเท่าไหร่? – Dr.Tarinee Hair Clinic
การปลูกผมราคาหลากหลาย ตั้งแต่ช่วงประมาณ 55,000 สูงไปจนถึงช่วง 200,000 บาท ขึ้นตามแต่ละปัจจัย เช่น ความรุนแรงของปัญหาเส้นผม ฝีมือ และประสบการณ์ของแพทย์ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ โดยสิ่งสำคัญคือ ความน่าเชื่อถือของคลินิกที่ใช้บริการ ทและมีรีวิวจริงจากผู้ใช้งาน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม (FAQ)
ปลูกผมผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันไหม?
ผู้หญิงและผู้ชายที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จะใช้วิธีปลูกผมที่ต่างกัน เนื่องจากลักษณะการร่วงของผมไม่เหมือนกัน โดยผู้ชายมักจะมีแนวผมเถิกหรือเว้าชัดเจน ส่วนผู้หญิงจะผมบางทั่วศีรษะ จึงต้องวางแผนปลูกผมให้เหมาะกับแต่ละเพศ
ปลูกผมอันตรายไหม?
การปลูกผมเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยและเกิดผลข้างเคียงน้อยค่ะ แต่หากคนไข้มีประวัติแพ้ยาชาหรือมีการติดเชื้อ ก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้ ก่อนปลูกผมแพทย์จึงต้องสอบถามและซักประวัติคนไข้เพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ
ปลูกผมแล้วผมร่วงทำอย่างไร?
หลังปลูกผมอาจมีอาการผมร่วงช่วงแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เรียกว่า “shock loss” แต่ผมจะเริ่มงอกใหม่ภายใน 3–4 เดือน ถ้าหากกังวลสามารถดูรีวิวปลูกผมจากผู้ที่เคยทำมาก่อนได้ และควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมปลูกผมเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมค่ะ
ปลูกผมถาวรได้ผลจริงไหม?
ปลูกผมถาวรให้ผลลัพธ์จริงและดูเป็นธรรมชาติค่ะ เนื่องจากเป็นการย้ายรากผมจากบริเวณที่แข็งแรง เช่น ท้ายทอย ไปปลูกผมในจุดที่มีปัญหาผมบางหรือหัวล้าน โดยสามารถเลือกเทคนิคผ่าตัดปลูกผมได้หลากหลาย เช่น FUE หรือ FUT ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ความสำเร็จของการปลูกผมขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม หนังศีรษะ และการดูแลหลังหัตถการอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในช่วง 6–12 เดือนหลังการรักษา และผมที่ปลูกจะงอกขึ้นมาอย่างแข็งแรงและอยู่ได้ในระยะยาว
สรุปเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการปลูกผม แก้ปัญหาผมบางอย่างตรงจุด
การปลูกผม เป็นการศัลยกรรมเพื่อรักษาภาวะผมร่วงและผมบาง ซึ่งจะช่วยให้คนไข้กลับมามั่นใจได้อีกครั้ง การทำหัตถการปลูกผมเพียงครั้งเดียวเส้นผมก็สามารถงอกขึ้นใหม่ได้อย่างถาวรค่ะ และเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ต้องการ คนไข้จึงควรเลือกคลินิกปลูกผมอย่างรอบคอบค่ะ
หากคุณกำลังเผชิญปัญหาผมร่วง ผมบาง และต้องการปรึกษาการปลูกผมกับแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
- Website : คลินิกปลูกผม Dr.Tarinee Hair Clinic
- Line : @drtarinee
- Facebook : Dr.Tarinee Hair Clinic ปลูกผม รักษา ผมร่วง ผมบาง
References
Dua, A & Dua, K. (2010). Follicular Unit Extraction Hair Transplant. Journal of Cutaneous and Aesthetic Surgery, 3(2): 78-81. doi: 10.4103/0974-2077.69015
Jewell, T. (2020, July 14). Everything to Know About a FUE Hair Transplant. Healthline. https://www.healthline.com/health/cosmetic-surgery/everything-to-know-about-a-fue-hair-transplant
Jiménez-Acosta, F. (2010). Follicular Unit Hair Transplantation: Current TechniqueTécnica actual del trasplante de pelo de unidades foliculares. Actas Dermo-Sifiliográficas (English Edition), 101(4): 291-306. https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1578219010706399