สำหรับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย ไรผม (Hair line) ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ใบหน้าดูสวยงาม ดูสมดุลมากขึ้น แต่ด้วยเวลาล่วงเลยไป ทำให้ไรผมขึ้นช้า และมีแนวโน้มที่จะร่นถอยลง หรือบางคนเริ่มมีปัญหาผมหนาบางลง ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกำลังประสบปัญหา ผมบาง หัวเถิก หัวล้าน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักการปลูกไรผมว่ามีวิธีไหนบ้าง แต่ละรูปแบบแตกต่างกันอย่างไร? ถ้าพร้อมแล้วเรามาศึกษากันเลย
Hair Line คืออะไร
ไรผม คืออะไร
ไรผม (Hair line) คือ ลูกผมและไรผมที่ขึ้นบริเวณตามแนวผมบริเวณด้านหน้า ทำหน้าที่เป็นแนวกั้นของใบหน้า เส้นผมบริเวณนี้จะมีขนาดเล็กและบาง การขึ้นของไรผมจะแตกต่างกันไปตามโครงหน้าของแต่ละบุคคล เมื่อไรก็ตามที่ไรผมเริ่มหายไป ก็จะทำให้พื้นที่บริเวณหน้าผากกว้างขึ้น ส่งผลให้เห็นหนังศีรษะอย่างชัดเจน หากปล่อยไว้นาน ๆ ไม่หาวิธีแก้ไข ในที่สุดอาจทำให้เกิดปัญหาหัวล้านได้
Hair Line ของผู้ชาย
ไรผมผู้ชาย
ไรผม (Hair line) แบบผู้ชาย โดยทั่วไปแล้วมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยม ในบางท่านอาจมีลักษณะส่วนเว้าคล้าย ๆ ตัวเอ็ม เวลาที่ผู้ชายผมร่วงหรือผมบาง จะมองเห็นเป็นง่ามลึกขึ้นไป และหน้าผากดูกว้างขึ้น การปลูกผมของผู้ชายส่วนใหญ่จึงเน้นปกปิดจุดบกพร่อง ก่อนทำการแก้ไขแพทย์จะทำการวัดสัดส่วนตรงแนวหน้าผากให้เข้ากับแต่ละท่าน หากชอบทรงไหนเป็นพิเศษสามารถแจ้งกับคุณหมอได้เลย
Hair Line ของผู้หญิง
ไรผมผู้หญิง
ไรผม (Hair line) แบบผู้หญิงเหมาะสำหรับผู้ที่อยากมีใบหน้าละมุนอ่อนช้อย ไรผมรูปแบบนี้ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะเพศหญิงเท่านั้น ในกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ ก็สามารถปลูกไรผมรูปแบบนี้ได้ ไรผมรูปแบบนี้จะมีความกลมมนกว่าของผู้ชาย โดยวัดสัดส่วนตรงแนวกลางหน้าผากให้สูงที่สุด และออกแบบไรผมตรงด้านข้าง ไรผมตรงหน้าผากให้เป็นลักษณะคล้ายรูปไข่ ช่วยให้หน้าดูหวานละมุนมากยิ่งขึ้น
Hair Line ของผู้ชายต่างกับผู้หญิงอย่างไร
ไรผมของผู้หญิงจะมีความโค้งมากกว่าของผู้ชาย แนวผมโค้งและไปตามแนวระดับขมับ คือดูเป็นรูปลงรีให้ดูละมุน ส่วนชายจะเป็นแนวตรง หรือ มีความเว้าเป็นตัวเอ็มเล็กน้อย ให้ดูแข็งแรงกว่า
ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกแบบ Hair Line ที่เหมาะสมกับใบหน้า
รูปหน้ากับไรผม
Arch Dermatol Res. 2023 Jul;315(5):1233-1239.
ถ้าอยากมีไรผมที่สวยงาม เหมาะกับใบหน้า แนะนำให้เลือกปลูกผมตามรูปแบบของใบหน้า เพื่อทำการรักษาได้อย่างตรงจุด โดยขั้นตอนนี้แพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำกับผู้เข้ารับการรักษาโดยตรง โดยการปลูกไรผมมีทรงต่าง ๆ ให้เลือกดังนี้
รูปแบบของ Hair Line
- ทรงโค้ง คือการปลูกผมให้หน้าผากเป็นแนวโค้ง ช่วยแก้ปัญหาใบหน้ายาวและปัญหาผมเถิกบาง ทำให้หน้าดูละมุนขึ้น
- ทรงหัวใจ คือ ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าใหญ่ หัวเถิก ทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัด การแก้ไขโดยการปลูกไรผมทรงหัวใจ ช่วยเติมเต็มกรอบหน้าให้เด็ดชัดมากขึ้นและมีเสน่ห์ด้วย
- ทรงธรรมชาติ คือ การปลูกผมด้านหน้า ให้มีลักษณะโค้งและมีรอยหยักเล็กน้อย ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยแก้ไขปัญหาผมบางด้านหน้า และดูไม่เหมือนปลูกผมมา
หลักการออกแบบ Hair Line
- แพทย์จะทำการดูแนวผมเดิมของคนไข้ก่อนว่าเป็นอย่างไร และดูตามรูปหน้าของคนไข้ว่าวางแนวอย่างไรจึงจะเหมาะสม รวมถึงคำนวณจำนวนกอผมที่จะต้องใช้ ว่าคนไข้สามารถปลูกได้หรือไม่ ด้านหลังรากผมแข็งแรงพอหรือไม่ เป็นต้น
- หลังจากนั้นดูจากอัตราส่วนใบหน้า ไรผมถึงหว่างคิ้วควรจะยาวประมาณ หว่างคิ้วถึงปลายจมูก เป็นระยะที่ไรผมที่ควรจะเป็น หรืออาจจะวัดจากแนวระหว่างคิ้วขึ้นไปถึงไรผม 7-10 เซนติเมตร
- หลังจากนั้นจะวาดรูปแบบแนวไรผม แล้วให้คนไข้ลองพิจารณาว่าเป็นแบบที่ต้องการหรือไม่ แล้วดูความเป็นไปได้ และความต้องการให้ตรงกัน
- โดยส่วนใหญ่แพทย์จะทำการดูไรผมให้ยาว หรือเรียงเป็นแนวเดียวกันไปถึงไรผมด้านขมับ หรือจอนเพื่อให้ดูธรรมชาติที่สุด
อยากมี Hair Line สวย ๆ ทำอย่างไร
ปลูกไรผม
อยากมีไรผมสวยเป็นธรรมชาตินั้น นอกจากการดูแลเรื่องการทานอาหารที่ดี การทานวิตามิน การใช้เซรั่มบำรุงผมแล้วนั้น ยังมีการรักษาอื่น ๆ ที่ทำให้ไรผมสวยเป็นธรรมชาติ ดังนี้
การรักษาโดยการไม่ผ่าตัด
- 3 Step Treatment : เป็นการสะกิดยาที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม แล้วทำการนวดต่อด้วยเครื่องช่วยเพิ่มการดูดซึม ช่วยกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงที่หนังศีรษะมากขึ้น หลังจากนั้นจะฉาย LLLT เพื่อกระตุ้นหนังศีรษะและทำให้เส้นผมหนาขึ้น เหมาะกับคนที่ยังมีรากผมอยู่ ทำให้ผมเส้นบาง ๆ หนาขึ้นได้
- LLLT : เป็นการใช้เลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ ที่มีช่วงคลื่น 633 นาโนเมตร ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม และทำให้หนังศีรษะแข็งแรง ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเส้นผมบริเวณไรผมได้ เหมาะกับคนที่ยังมีรากผมอยู่
- PRP : คือการนำเกล็ดเลือดเข้มข้นที่ปั่นแยกมาจากเลือดของคนไข้เอง โดยตัวเกล็ดเลือดเข้มข้นนี้จะมีสารอาหาร และ Growth Factor ที่มีประโยชน์ในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม และเซลล์ผิวหนังบริเวณข้างเคียงให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น ผมจะดูหนาขึ้น หลุดร่วงน้อยลง เหมาะกับคนที่ยังมีรากผมอยู่ และสามารถใช้เสริมการรักษาอื่นได้ด้วย เช่น การรับประทานยา หรือหลังการปลูกผม
- Hair Stem Cell Treatment เป็นการสกัดเซลล์ต้นกำเนิดจากรากผมของคนไข้เอง โดยเซลล์ต้นกำเนิดนี้จะนำออกมาจากกอผมของคนไข้ แล้วใช้เครื่องมือพิเศษสกัดแยกเอาส่วนของสเต็มเซลล์ หรือเซลล์ต้นกำเนิดออกมา รวมถึงเรายังได้สารอาหารที่ดี และ Growth Factor ที่ช่วยให้ผมหนา แข็งแรงขึ้น และมีผมใหม่ขึ้นด้วย วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีรากผมฝ่อบางส่วน หรือผมบางทั่วทั้งศีรษะไม่สามารถปลูกผมได้ หรือยังไม่อยากทำการปลูกผม
การรักษาโดยการผ่าตัด
- FUE เป็นการรักษาปลูกผมแบบไม่ผ่าตัดที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุด เนื่องจากไม่ทิ้งรอยแผลเป็น และพักฟื้นน้อย โดยมีวิธีการเจาะเอากอผมด้านท้ายทอยที่มีความแข็งแรงของกอผมมากที่สุด มาปลูกกลับที่บริเวณไรผมที่เราได้ทำการวางแผนไว้ โดยเทคนิคปลูกกลับจะใช้เป็นเทคนิค DHI หรือ Direct Hair Inplantation ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ปากกาปลูกผมช่วยนำส่งกอผมเพื่อลดการบอบช้ำของกอผม เพิ่มอัตราการอยู่รอดของกอผมที่ปลูกมากขึ้น
- FUT เป็นการปลูกผมแบบผ่าตัดเป็นแถบเล็ก ๆ คล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วนำแถบกอผมนั้นมาคัดแยกเพื่อปลูกกลับเข้าไป วิธีนี้จะทำให้ได้กราฟที่สมบูรณ์ และปริมาณเยอะโดยที่ผมไม่บางลง แต่อาจจะมีรอยแผลเป็นที่ท้ายทอยได้ ไม่เหมาะกับคนไว้ผมสั้น หรือมีประวัติเป็นแผลเป็นนูน หรือคีลอยด์
ข้อสรุป Hair Line
ไรผมของเราสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ดูละมุน หรือดูเข้มแข็งขึ้นได้ เมื่อเรารู้สึกไม่มั่นใจในไรผมของตนเอง อาจจะทำการแก้ไขได้ด้วยยา หรือ Treatment หรือปลูกผมปรับไรผม สำหรับใครที่อยากทราบว่าปัญหาแบบที่คุณกำลังพบอยู่ควรแก้ไขอย่างไร สามารถปรึกษาหมอแก้ว หรือ พญ.ธาริณี ก่อวิริยกมล ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม ได้ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic โทร 0889519193
Reference
5 Differences of Male and Female Hairline (scalpny.com)
Different Types Of Hairlines For Men And Women (stylecraze.com)
Han J K , Ji H B1, et.al. An analysis of shapes and location of anterior hairline in Asian men. Arch Dermatol Res. 2023 Jul;315(5):1233-1239. doi: 10.1007/s00403-022-02505-1.