แพ้ยาสระผม

คุณกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่หรือเปล่า? อาการระคายเคืองหนังศีรษะ มีอาการแสบผิว คัน เป็นรังแค มีสิวขึ้นตามกรอบหน้า ตามแผ่นหลัง ผมร่วงเห็นได้ชัด หากมีสัญญาณเหล่านี้แนะนำรีบเช็กตัวเองเบื้องต้น โดยแต่ละคนนั้นอาจมีสัญญาณความผิดปกติที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากคุณอาจกำลังเผชิญกับอาการแพ้ยาสระผม หรือแพ้แชมพูอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งบทความนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับอาการแพ้ยาสระผมกันว่าจริง ๆ แล้วมีอาการแบบไหน และควรดูแลรักษาอย่างไรให้ถูกต้องเหมาะสม พร้อมแล้วก็ตามมาอ่านกันได้เลย 

แพ้ยาสระผม คืออะไร เกิดจากอะไร

รักษาแพ้ยาสระผม

อาการแพ้ยาสระผม หรือแพ้แชมพู เป็นอาการแพ้สารเคมีบางชนิดในยาสระผม เช่น สารลดแรงตึงผิว น้ำหอมสังเคราะห์ ซิลิโคน พาราเบน ฟอร์มาดีไฮด์ ที่ล้วนแล้วแต่จะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะและส่งผลเสียต่อสุขภาพเส้นผมได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะแล้ว อาการแพ้ยาสระผม แพ้ชมพูนี้ยังอาจทำให้ผิวบริเวณใกล้เคียง เช่น หน้าผาก กรอบหน้า ท้ายทอย ลำคอ ใบหูมีอาการระคายเคืองได้ด้วยเช่นกัน 

9 ลักษณะอาการแพ้ยาสระผม

สำหรับอาการแพ้ยาสระผมของแต่ละคนนั้นอาจจะมีสัญญาณความผิดปกติที่แตกต่างกันออกไป แต่จะพบได้บ่อย ๆ อยู่ 9 ลักษณะด้วยกัน ดังนี้ 

1. แพ้ยาสระผม ผิวหนังแดง

อาการแพ้ยาสระผมอาการแรกที่พบได้บ่อยเลยก็คือ อาการคัน และมีผิวหนังแดง โดยอาจจะเห็นชัดตามบริเวณไรผม กรอบหน้า ท้ายทอย หรือถ้าแหวกผมอาจเห็นรอยปื้นแดงตามหนังศีรษะ ซึ่งถ้าใช้แชมพูแล้วเจออาการนี้ ขอบอกเลยว่านั่นเป็นสัญญาณของอาการแพ้แชมพูอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันในบางรายอาจมีอาการแพ้ยาสระผมผิวหนังแดงร่วมกับอาการแสบ คันด้วย 

2. แพ้ยาสระผม หนังศีรษะลอก แห้งตกสะเก็ด

ถ้าหากคุณสังเกตว่าใช้แชมพูมาสักระยะแล้วเกิดปัญหาสะเก็ดเล็ก ๆ ตามเส้นผมและหนังศีรษะ มีอาการคันบ้างไม่คันบ้าง คล้ายรังแค นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังเผชิญกับอาการแพ้แชมพูอยู่ก็เป็นได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หนังศีรษะแห้งมากกว่าปกติ และเกิดอาการหนังศีรษะลอก แห้งตกสะเก็ดในที่สุด 

3. แพ้ยาสระผม หนังศีรษะมีแผลพุพอง

ในผู้ที่เผชิญกับอาการแพ้ยาสระผมบางรายนั้นอาจรุนแรงถึงขั้นหนังศีรษะมีแผลพุพองได้ โดยอาการแพ้ยาสระผมลักษณะนี้เริ่มแรกอาจมีอาการคัน แสบร้อนบริเวณหนังศีรษะ หรือบริเวณใกล้เคียง เช่น กรอบหน้า ใบหู ท้ายทอย ก่อนจะมองเห็นเป็นตุ่มใส และอาจลามเป็นแผลพุพองในภายหลัง แบบนี้ถือเป็นการแพ้รุนแรง ต้องรีบพบแพทย์ผิวหนัง

4. แพ้ยาสระผม ผิวหนังแสบร้อน

เมื่อไหร่ที่มีอาการแพ้ยาสระผม หนึ่งในอาการที่อาจพบได้ก็คือ อาการผิวหนังแสบร้อน เนื่องจากสารเคมีที่อยู่ในแชมพู โดยจะมีอาการผิวหนังแสบร้อนทั้งบริเวณหนังศีรษะ ผิวหน้า ลำคอ รวมถึงใบหูร่วมด้วย เป็นอาการระคายเคืองอย่างหนึ่ง

5. แพ้ยาสระผม ตาบวม

ถ้าหากว่าคุณมีอาการแพ้ยาสระผม และสารเคมีในยาสระผมนั้นไหลเข้าดวงตา อาจส่งผลให้ผิวบริเวณดวงตาของคุณเกิดอาการระคายเคือง หรือเยื่อบุตาอักเสบ และทำให้ตาบวมได้ หรือการแพ้ที่รุนแรงอีกแบบคือมีตาบวมอย่างเดียวก็ได้ หรือมีผื่นคล้ายลมพิษขึ้นร่วมด้วย

6. แพ้ยาสระผม เป็นผดผื่นคัน ลมพิษ

เพราะอาการแพ้แชมพูของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจมีอาการระคายเคืองเพียงเล็กน้อย แต่ขณะเดียวกันในบางรายก็อาจแพ้ยาสระผมรุนแรงถึงขั้นมีอาการผด ผื่นคัน หรือลมพิษเห็นชัดบริเวณใบหน้า ใบหู และลำคอได้เลยทีเดียว แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการเกา เพราะอาจทำให้ผดผื่นกระจายเป็นวงกว้างได้

7. แพ้ยาสระผม เป็นสิว

อาการแพ้ยาสระผม เป็นสิวพบได้บ่อยมาก ๆ กับคล้ายกับอาการแพ้ยาสระผมคือมีสิวขึ้น โดยเฉพาะบริเวณไรผม หน้าผาก กรอบหน้า หรือแม้แต่แผ่นหลัง เนื่องจากสารเคมีจำพวกซิลิโคนที่ผสมอยู่ในยาสระผม ทำให้ผิวเกิดการอุดตันและพัฒนากลายเป็นสิวอุดตัน สิบอักเสบได้ในที่สุด จริง ๆ แล้วการมีสิวอาจจะไม่ใช่อาการแพ้สารเคมีโดยตรง แต่เป็นแค่ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดกับบางคนได้เท่านั้นเอง

8. แพ้ยาสระผม เป็นรังแค

ปัญหาแพ้ยาสระผม เป็นรังแคนั้นถือเป็นปัญหาที่หนักใจมาก ๆ เพราะไม่เพียงแต่จะส่งผลให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะแล้ว ยังมองเห็นสะเก็ดขาว ๆ เด่นชัดจนพาขาดความมั่นใจได้อีกด้วย แถมอาจมีอาการคันหนังศีรษะจนรบกวนการชีวิตประจำวันร่วมด้วย 

9. แพ้ยาสระผม ผมร่วง

สารเคมีในแชมพูบางชนิดมีส่วนทำให้เกิดปัญหาแพ้แชมพู เกิดการอักเสบ แล้วเกิดปัญหาผมร่วงได้ในที่สุด 

ผมร่วงจากการแพ้ยาสระผม สังเกตอย่างไร

อาการแพ้ยาสระผม

อาการแพ้ยาสระผม

โดยปกติแล้ว ผมของเราจะหลุดร่วงอย่างน้อย 100-150 เส้นต่อวัน และอาจมากถึง 200 เส้นต่อวัน โดยเฉพาะในวันที่มีการสระผม และถ้าสังเกตว่ามีเส้นผมร่วงมากขึ้นเกิน 200 เส้นต่อวัน นั่นอาจเป็นสัญญาว่าสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคุณอาจมีความผิดปกติ และหนึ่งในสาเหตุนั้นก็อาจเป็นเพราะอาการแพ้ยาสระผมได้ คุณอาจจะมีอาการคัน มีผื่นที่ศีรษะ หรือมีประวัติเพิ่งเปลี่ยนแชมพูใหม่ หากมีอาการดังกล่าวและสงสัยว่าแพ้แชมพูจำเป็นต้องรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด และหาวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป เช่น การใช้ยา การอาศัยนวัตกรรมทางการแพทย์อย่างพวกการฉีดสเต็มเซลล์ผม ฉีด PRP ผม หรือแม้แต่การฉายแสง LLLT เพื่อรักษาความแข็งแรงของรากผม 

วิธีรักษาแพ้ยาสระผม 

วิธีรักษาอาการแพ้ยาสระผม

วิธีรักษาอาการแพ้ยาสระผม

1. รีบล้างแชมพูออกทันทีเมื่อมีอาการ

เมื่อไหร่ที่มีอาการแพ้ยาสระผมโดยทันที เช่น อาการคันระคายเคือง อาการแสบร้อนตามหนังศีรษะ หรือผิวบริเวณใกล้เคียง ควรรีบชะล้างแชมพูออกจากเส้นผมและหนังศีรษะทันทีด้วยน้ำสะอาด รวมถึงชำระล้างร่างกายให้สะอาดด้วย เพื่อป้องกันอาการแพ้แชมพูในผิวบริเวณอื่น ๆ และควรงดใช้ผลิตภัณฑ์นั้นไปก่อน

2. พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หากอาการแพ้ยาสระผมรุนแรงขึ้น เช่น แสบร้อนผิว คันระคายเคืองจนทนไม่ไหว มีรอยผื่นแดงเห็นชัด หรือมีปัญหาผมร่วงมากกว่าปกติ แนะนำพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป 

3. ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม สูตรอ่อนโยน

เมื่อรู้แล้วว่าผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เคยใช้อยู่นั้นส่งผลให้เกิดอาการแพ้ยาสระผม ก็ควรปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทันที โดยอาจเลือกเป็นยาสระผมสูตรอ่อนโยน หรือยาสระผมสำหรับคนแพ้ง่ายแทน เพื่อที่จะได้ลดอาการแพ้แชมพูได้

แนะนำวิธีเลือกยาสระผมสูตรอ่อนโยน ป้องกันการแพ้ยาสระผม

ป้องกันการแพ้ยาสระผม

ป้องกันการแพ้ยาสระผม

รูปภาพจาก : 10 Chemicals in Shampoo That Cause Hair Loss | LaserCap

เพื่อเป็นการป้องกันการแพ้ยาสระผม สามารถเริ่มจากการเรียนรู้วิธีเลือกยาสระผมสูตรอ่อนโยน หรือสูตรที่เหมาะกับสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งมีตัวอย่างสารเคมีในแชมพูที่ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้

1.ซิลิโคน

แม้ว่าการใส่ซิลิโคนในแชมพูจะช่วยเคลือบเส้นผมให้เงางามแลดูสุขภาพดี แต่ด้วยคุณสมบัติที่ล้างออกยาก อาจทำให้เกิดการสะสมบนผิวหนังและหนังศีรษะ จนเกิดการอุดตันของรูขุมขน และกลายเป็นปัญหาสิวในที่สุดได้ อีกทั้งอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะร่วมด้วย ซึ่งตัวอย่างชื่อซิลิโคนที่พบได้บ่อยในฉลากแชมพู ได้แก่ Dimethicone, Cetyl Dimethicone, Cetearyl Methicone เป็นต้น

2. พาราเบน 

พาราเบน (Paraben) หรือสารกันเสียที่นิยมใช้ในแวดวงเครื่องสำอาง บอดี้แคร์ หรือแฮร์แคร์ต่าง ๆ นั้น ปัจจุบันในบางประเทศ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปประกาศให้ยกเลิกใช้ เนื่องจากเชื่อว่าเป็นสารก่อมะเร็งที่อันตรายต่อสุขภาพร่างกายของผู้บริโภค ฉะนั้นถ้าต้องการเลือกใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยน และเป็นการป้องกันอาการแพ้ยาสระผมไปในตัว ควรเลือกยาสระผมไม่มีพาราเบนจะดีที่สุด

3. SLS/SLES

สำหรับ SLS/SLES เป็นสารที่ทำให้เกิดฟอง พบได้บ่อยในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น สบู่ แชมพู อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ โดยเฉพาะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองดวงตา สิวผด ผื่นคัน ผิวหนังแห้งง่าย หรืออาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ผมร่วงได้

4. น้ำหอมสังเคราะห์

แม้ว่าการเลือกใช้แชมพูกลิ่นหอม ๆ จะดีต่อใจผู้บริโภค แต่รู้หรือไม่? ว่าแชมพูตามท้องตลาดบางยี่ห้ออาจมีการใช้น้ำหอมสังเคราะห์ ที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะและผิวหนังได้ ทางที่ดีควรเลือกยาสระผมสูตรอ่อนโยนที่ใช้กลิ่นหอมสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเป็นการป้องกันอาการแพ้แชมพูจะดีที่สุด

5. สารอื่น ๆ

สารอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดการแพ้บ่อย เช่น สารกันเสียชื่อ Formaldehyde และสารที่ปลดปล่อย Formaldehyde เช่น DMDM เป็นสารที่ก่อการแพ้ได้บ่อย หรือตัวสารที่ใส่เพื่อให้เกิดสี หรือเกิดความหนืดของผลิตภัณฑ์ ก็อาจจะทำให้เกิดการแพ้ได้

6. การทำทดสอบ Patch Test 

จริง ๆ แล้วเมื่อเรามีอาการแพ้สารเคมี แล้วอยากรู้ว่าแพ้สารตัวใดเพื่อจะได้เลือกใช่ผลิตภัณฑ์ได้ถูกต้อง โดยเราสามารถการทำทดสอบทางผิวหนัง ที่เรียกว่า Patch Test ได้ ซึ่งการทำ Patch Test นี้สามารถปรึกษาคุณหมอผิวหนังเพื่อทำการทดสอบได้

สรุปการแพ้ยาสระผม

แพ้ยาสระผม แพ้แชมพู ปัญหากวนใจที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอด แม้จะใช้แชมพูรุ่นเดิม ยี่ห้อเดิมอย่างที่เคยใช้มาตลอด วันหนึ่งอาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหนังศีรษะ เกิดผื่นคัน ผิวแพ้ง่าย ไวต่อสารเคมีในยาสระผมก็เป็นได้ จนเกิดอาการที่กวนใจนานัปการตามมา ทั้งแพ้ยาสระผมหรือมีสิวขึ้น แพ้ยาสระผมแล้วเป็นรังแค หรือแม้แต่แพ้แชมพูผมร่วงเห็นชัด เป็นต้น ฉะนั้นควรเลือกใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยน หรือเลือกวิธีการดูแลผมที่ถูกวิธี เพื่อป้องกันอาการดังกล่าว และถ้าหากมีอาการผิดปกติจนหวั่นใจ แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีรักษาแพ้ยาสระผมที่ถูกต้องต่อไป


Reference

5 Shampoos That May Cause Hair Loss – GoodRx

Shampoo Ingredients That Can Cause Hair Loss (verywellhealth.com)

10 Chemicals in Shampoo That Cause Hair Loss | LaserCap