ต่อผม

ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน แนวคิดที่ว่าผู้หญิงต้องผมยาว และผมยาวเท่ากับความสวย สร้างความมั่นใจในตนเองก็ยังคงอยู่ สาว ๆ หลายคนที่มีปัญหาผมยาวช้า ผมบาง อยากจะผมยาวเร็ว ๆ ก็อาจมองหาวิธีการที่ช่วยให้ผมยาวสมหวังดังใจนึกโดยวิธีที่ในปัจจุบันค่อนข้างเป็นที่นิยมมากก็คือการต่อผมนั่นเองค่ะ

เพราะการต่อผมสามารถช่วยให้ผมที่บางและสั้นของคุณยาวขึ้นได้ทันทีหลังไปต่อผมเลย แถมเทคนิคต่อผมในปัจจุบันยังมีหลายเทคนิคมาก ๆ ที่ทำให้ผมต่อออกมาเนียนเสมือนผมของเราจริง ๆ 

แต่ก่อนจะไปต่อผมคุณหมออยากให้ลองชั่งน้ำหนักถึงข้อดีและข้อเสียของการต่อผมก่อนนะคะ เพราะการต่อผมนับเป็นหนึ่งในวิธีการที่ทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะ และนำมาสู่อาการผมร่วงผมบาง และหัวล้านได้เลย ซึ่งในบทความนี้คุณหมอจะขอพูดในเรื่องการต่อผมคืออะไร มีวิธีต่อผมแบบไหนบ้าง จะต่อผมแบบไหนดี การต่อผมมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างที่ควรพิจารณา และหากต่อผมไปแล้วจะมีการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ



ต่อผม คืออะไร

ต่อผมยาว
ต่อผม คืออะไร

การต่อผมเป็นเทคนิคที่ช่วยให้ผมยาวขึ้นได้แบบทันทีโดยใช้เส้นผมหรือช่อผมจากภายนอกมาต่อเข้ากับเส้นผมจริงที่งอกบนหนังศีรษะของเราค่ะ โดยเส้นผมที่นำมาต่อ มีทั้งผมจริง ผมสังเคราะห์ หรือบางที่ก็ใช้ผมผสมค่ะ และวิธีต่อผมเองก็ยังมีหลายรูปแบบไม่ว่าจะใช้กาว ใช้เทป ใช้การมัด เป็นต้น ซึ่งแต่ละวิธีต่อผมก็มีข้อดีข้อเสียต่างกัน ซึ่งคุณหมอขอยกไปพูดในหัวข้อถัดไปนะคะ


การต่อผมมีแบบไหนบ้าง

ต่อผมแบบไหนดี
การต่อผมมีแบบไหนบ้าง

การต่อผมในตอนนี้มีหลายเทคนิคให้เลือกค่ะ ในแต่ละแบบก็มีการใช้วัสดุในการต่อผม ขั้นตอนการต่อผม รวมถึงราคาต่อผมที่แตกต่างกัน ในหัวข้อนี้คุณหมอได้รวบรวมการต่อผมมีแบบไหนบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

1.ต่อผมแบบกิ๊บ

วิธีต่อผมแบบกิ๊บเป็นวิธีต่อผมที่ทำได้ง่ายที่สุด สะดวกที่สุด ราคาต่อผมก็ค่อนข้างเบาด้วยค่ะ โดยการต่อผมด้วยกิ๊บจะใช้กิ๊บเป็นตัวเชื่อมระหว่างช่อผมที่ต่อกับเส้นผมของเราจริง ๆ ที่นำมารวมกันให้เป็นช่อ ซึ่งหากใครที่มีความสามารถหน่อยก็อาจสามารถซื้ออุปกรณ์มาต่อผมตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งร้านทำผมเลยก็ได้ และยังสามารถถอดออกได้ง่ายอีกด้วย แต่ข้อจำกัดของการต่อผมแบบกิ๊บคืออาจมองเห็นรอยต่อจากผมต่อได้ง่ายค่ะ

2.ต่อผมแบบกาว

การต่อผมแบบกาวเป็นวิธีต่อผมสุดเบสิคที่ร้านเสริมสวยที่มีบริการต่อผมจะต้องมี เพราะเป็นวิธีต่อผมที่ใช้เวลาทำไม่นานอีกทั้งยังราคาถูก สามารถดึงลูกค้าเข้ามาทำได้ไม่ยากค่ะ การต่อผมแบบนี้จะใช้กาวเป็นตัวเชื่อมระหว่างเส้นผมที่จะนำมาต่อกับเส้นผมจริงบนศีรษะเราค่ะ เมื่อต่อผมเสร็จผมจะยาวดูคล้ายกับผมธรรมชาติมาก ๆ 

แต่ข้อจำกัดของการใช้กาวต่อผมนั้นค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะต้องอาศัยฝีมือช่างที่จะต่อผมของเราออกมาดูสวยไม่โป๊ะ การใช้กาวหรือเทปในการต่อผมว่ามีคุณภาพแค่ไหน และการต่อผมแบบนี้ยังไม่เหมาะกับผู้ที่สระผมบ่อย จัดแต่งทรงผมบ่อย หรือผู้ที่มีผมมันง่ายด้วยค่ะ เนื่องจากกาวหรือเทปที่ใช้ต่อผมนั้นไม่สามารถคงอยู่ถาวร สามารถเสื่อมสภาพได้ตามกาลเวลา และปัจจัยดังกล่าวนั้นจะยิ่งเป็นตัวเร่งให้กาวเสื่อมสภาพเร็วกว่าเดิมนั่นเอง

นอกจากนี้กาวที่ใช้ต่อผมที่เสื่อมสภาพแล้วมักจะหลุดและไปรวมตัวกับเส้นผม ทำให้ผมจับตัวเป็นก้อนหรืออาจหลุดลอกเป็นแผ่น ๆ คล้ายกับรังแค สร้างความรำคาญและความไม่มั่นใจได้

นอกจากนั้นบางคนอาจจะแพ้กาวต่อผมได้ให้คอยระวังหรือสังเกตอาการตัวเองหลังต่อผมไปด้วย

3.ต่อผมแบบเทป

การต่อผมแบบเทปจะคล้ายกับการต่อผมแบบกาวค่ะ แต่เปลี่ยนจากการใช้กาวเป็นตัวเชื่อมเป็นการใช้เทปแทน ซึ่งการต่อผมแบบเทปอาจดีกว่าแบบกาวเล็กน้อยคือจุดที่เชื่อมต่อจะแบนและเรียบ เวลานอนทับจะไม่รู้สึกเจ็บมากเหมือนการใช้กิ๊บหรือกาว แต่อาจต้องระวังถึงวัสดุเทปที่ใช้ด้วยนะคะ หากเจอร้านที่ใช้เทปไม่มีคุณภาพอาจทำให้ผมเสียได้เลยค่ะ

4.ต่อผมแบบเส้นต่อเส้น หรือ ผูกเส้นผม

วิธีต่อผมแบบเส้นต่อเส้นหรือการผูกเส้นผมนั้นจะใช้เส้นผมที่ต้องการนำมาต่อมาผูกกับเส้นผมจริงของเราทีละเส้นหรือทีละช่อเล็ก ๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติที่สุดในบรรดาเทคนิคการต่อผมแบบอื่น ๆ 

แต่การต่อผมแบบนี้จะต้องอาศัยความชำนาญและอดทนของช่างอย่างมาก เนื่องจากจะต้องใช้เวลานาน อีกทั้งยังหลุดง่ายเพราะไม่ได้ใช้ตัวเชื่อมใด ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงจึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก

5.ต่อผมแบบมัดเชือก

การต่อผมแบบมัดเชือกหรือที่หลายคนอาจรู้จักในชื่อมัดเชือกเกาหลีเป็นวิธีต่อผมโดยใช้เชือกเส้นเล็ก ๆ เป็นตัวเชื่อมระหว่างช่อผมที่ต้องการนำมาต่อกับช่อผมบนหนังศีรษะเราค่ะ ซึ่งการต่อผมแบบมัดเชือกจะค่อนข้างสบายหัวกว่าการใช้กิ๊บหรือกาว แต่เส้นผมที่ต่อค่อนข้างคงทน และยังถนอมเส้นผมจริงได้ดีกว่าด้วยค่ะ 

6.ต่อผมแบบหลอด หรือ แฮร์ล็อค

อีกวิธีต่อผมที่สามารถหาร้านทำได้ง่ายคือการต่อผมแบบหลอดหรือแฮร์ล็อคค่ะ เทคนิคต่อผมแบบนี้จะให้ความคงทนสูงไม่หลุดง่ายเหมือนกับการต่อผมด้วยกาว แต่ให้ความเป็นธรรมชาติกว่าแบบกาวค่ะ วัสดุที่ใช้จะมีลักษณะคล้ายหลอดมาเชื่อมระหว่างผมต่อกับผมจริงสามารถอยู่ได้ยาวถึงครึ่งปีเลยค่ะ อีกทั้งยังสามารถทำสี ดัด อบไอน้ำได้เป็นปกติ ไม่ต้องมานั่งระวังเหมือนกาวด้วยค่ะ

7.ต่อผมแบบถักเปีย

การต่อผมแบบถักเปียเป็นการต่อผมจริงกับผมต่อด้วยการถักเปียรวมเข้าด้วยกัน ทั้งให้ความคงทนสูง ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ใช้สิ่งแปลกปลอมอยากเช่นกาว เทป หรือกิ๊บมาติดบนศีรษะของเรา และยังทำให้ผมดูหนาขึ้นอีกด้วยค่ะ

8.ต่อผมแบบคลิป หรือ ไมโครริง

การต่อผมแบบคลิปหรือไมโครริงเป็นเทคนิคการต่อผมที่ใช้วงแหวนเหล็กเป็นตัวเชื่อมระหว่างช่อผมต่อกับผมจริงค่ะ โดยให้ความคงทนระดับหนึ่ง สามารถอบไอน้ำหลังต่อผมได้ และยังสามารถถอดออกง่ายอีกด้วยค่ะ แต่ข้อจำกัดคือทำให้เจ็บหนังหัวง่ายมาก ๆ ค่ะ

9.ต่อผมแบบนาโนริง

การต่อผมแบบนาโนริงจะคล้ายกับการต่อผมแบบไมโครริง แต่ใช้วัสดุวงแหวนที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครริงมาก ๆ ค่ะ ให้งานละเอียดมากกว่า สบายหนังหัวกว่าแต่ข้อจำกัดคือการต่อผมด้วยนาโนริงจะใช้ผมต่อช่อเล็กมาก ๆ ถึงแม้ว่าจะทำให้ดูงานละเอียดแต่ก็แลกมากับการหลุดร่วงง่ายค่ะ

10.ต่อผมแบบเคราติน

การต่อผมแบบเคราตินจะมีขั้นตอนเหมือนกับการต่อผมแบบกาวค่ะ ต่างกันแค่ใช้วัสดุต่างกันเท่านั้น ซึ่งการต่อผมแบบเคราตินจะใช้เคราตินในการต่อผม ซึ่งเคราตินมีคุณสมบัติที่ให้ความคงทนกว่ากาว มีน้ำหนักเบากว่า และยังทนต่อความร้อนได้ดี ลดปัญหาเส้นผมพันทำให้ผมเสียเมื่อตัวเชื่อมละลายนั่นเอง แถมยังสามารถถอดออกง่ายโดยไม่ทำให้เส้นผมจริงเสียหายหนักด้วยค่ะ


แนะนำ ต่อผมแบบไหนดีที่สุด

ต่อผมแบบไหนดีสุด
แนะนำ ต่อผมแบบไหนดีที่สุด

จะเห็นได้ว่าแค่การต่อผมก็มีหลายเทคนิคให้เลือก ทำให้หลายคนที่สนใจอาจเกิดคำถามขึ้นว่าจะต่อผมแบบไหนดีที่สุด? ซึ่งคำตอบที่คุณหมอตอบได้คือให้ลองพิจารณาจากงบที่มีหรือความสะดวกของแต่ละคนได้เลยค่ะ

แต่จะให้แนะนำจริง ๆ ว่าการต่อผมแบบไหนดีสุด คุณหมอก็คงจะแนะนำการต่อผมแบบถักเปียค่ะ เพราะในตอนนี้การต่อผมแบบถักเปียได้รับความนิยมสูง ให้ผมที่ต่อดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องใช้วัสดุแปลกปลอมในการเชื่อมต่อผมจริงกับผมต่อ เพราะใช้การถักรวมกันไปเลย อีกทั้งยังให้ความคงทนที่ดีระดับหนึ่งและช่วยให้ผมหนาขึ้นอีกด้วยค่ะ 


ข้อดี-ข้อเสียของการต่อผม

ต่อผม ข้อเสีย
ข้อดี-ข้อเสียของการต่อผม

ก่อนจะไปจองร้านเสริมสวยเพื่อต่อผม ลองมาดูข้อดีข้อเสียของการต่อผมก่อนกันก่อนค่ะว่ามันเหมาะกับเราจริง ๆ หรือไม่ คุ้มไหมที่จะทำ

ข้อดีของการต่อผม

  • สามารถทำให้ผมของคุณยาวขึ้นได้ตามที่ต้องการแบบทันที 
  • ผมที่ต่อจะติดกับเส้นผมจริงของเราค่อนข้างนานนับเดือนหรือบางเทคนิคของการต่อผมก็สามารถอยู่ได้ยาวครึ่งปีเลย ไม่ต้องมานั่งถอด ๆ ใส่ ๆ ในทุก ๆ วันค่ะ
  • บางเทคนิคสามารถทำให้ผมยาวได้เนียนสวยเป็นธรรมชาติ สามารถมัดผมได้เหมือนผมจริง ๆ 

ข้อเสียของการต่อผม

  • ดูแลรักษาผมต่อค่อนข้างยาก ไม่สามารถสางผมแบบปกติได้เพราะอาจทำให้ผมที่ต่อไว้ร่วงหลุดออก 
  • มัดผมแล้วเจ็บหนังหัวง่ายกว่าปกติ เพราะผมที่ต่อเอาไว้ก็ค่อนข้างดึงรั้งเส้นผมและหนังศีรษะอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งเพราะการต่อผมมักจะทิ้งปมรอยต่อเอาไว้อยู่ไม่มากก็น้อย ทำให้เวลานอนทับอาจรู้สึกเจ็บได้
  • ผมแห้งช้ากว่าปกติ เพราะปมที่มัดไว้จะแห้งยาก เหมือนเรามัดผมแล้วเป่าผมให้แห้งทั้งอย่างนั้นค่ะ 
  • การต่อผมไม่สามารถทำให้ผมยาวแบบถาวรได้ เมื่อตัวเชื่อมผมจริงกับผมต่อเสื่อมสภาพก็ต้องกลับมาต่อผมใหม่อีกครั้ง
  • เพิ่มโอกาสทำให้ผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน เนื่องจากการต่อผมจะทำให้เส้นผมจริงถูกดึงรั้งและรับน้ำหนักมากเป็นเวลานาน ทำให้รากผมอ่อนแอลง

รวมคำถามที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ “ต่อผม”

ต่อผมดีไหม
รวมคำถามที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ “ต่อผม”

ต่อผมอยู่ได้นานไหม

การต่อผม 1 ครั้งสามารถอยู่กับเราได้ยาว 2-6 เดือนขึ้นอยู่กับเทคนิคการต่อผมและการดูแลรักษาของแต่ละคนค่ะ

ต่อผมแล้วผมร่วงเยอะ ผมบางลง จริงไหม

สำหรับคำถามนี้คุณหมอขอตอบเลยค่ะว่าการต่อผมทำให้ผมร่วง ผมบางลงได้จริง ๆ ค่ะ ถึงแม้ว่าการต่อผมจะเป็นเทคนิคที่ทำให้ผมยาว ผมหนาขึ้นได้ทันที แต่เพราะวิธีต่อผมไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็จะต้องมีการดึงรั้งเส้นผมจริงให้ติดกับผมต่อ และเมื่อเส้นผมจริงถูกดึงรั้งอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้รากผมอ่อนแอลงและในที่สุดก็ขาดร่วงนั่นเองค่ะ

พามาดู สาเหตุผมร่วงของผู้หญิง ที่แท้จริงกัน

ต่อผมแล้วสระผมได้ปกติไหม

เมื่อต่อผมแล้วยังสามารถสระผมได้ปกติค่ะ เพียงแต่อาจมีข้อควรระวังในการสระผมเล็กน้อยเพื่อให้ผมต่อไม่หลุดร่วงและไม่เป็นการทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะไปมากกว่าเดิม เช่น ให้เงยหน้าสระผมแทนการก้มสระผม หลีกเลี่ยงการเกาหนังศีรษะรุนแรง ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ ไม่ใช้ลมร้อนเป่าที่โคนผม เป็นต้น 

มีปัญหาผมร่วงเยอะ ผมบาง ต่อผมดีไหม

ถ้ามีปัญหาผมร่วงเยอะ ผมบาง อยากผมหนาขึ้นแบบทันใจจะไปต่อผมดีไหม คุณหมอแนะนำว่าไม่ควรค่ะ เพราะการต่อผมเป็นการทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะ ถึงแม้ว่าจะช่วยให้ผมของคุณหนาและยาวขึ้นได้แต่ก็เป็นการชั่วคราวเท่านั้น แต่ในระยะยาวกลับส่งผลให้ผมร่วงและบางมากกว่าเดิม จนอาจนำมาสู่ปัญหาผมล้านได้


วิธีดูแลผมหลังต่อผม

รีวิวต่อผม
วิธีดูแลผมหลังต่อผม

หากคุณไปต่อผมมาแล้ว จะมีวิธีดูแลผมหลังต่อผมอย่างไรบ้างเพื่อให้เส้นผมที่ต่ออยู่ไปได้นานและลดความเสียหายต่อเส้นผมและหนังศีรษะจริง มาดูกันเลยค่ะ

1. สระผมอย่างเบามือ

หลังต่อผมจะทำให้เซลล์รากผมอ่อนแอเป็นพิเศษจากการถูกรั้งค่ะ ดังนั้นเวลาสระผมจึงควรสระอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงการขยี้เส้นผมหรือเกาหนังศีรษะเพื่อไม่ให้หนังศีรษะถูกทำร้ายไปมากกว่าเดิมและลดโอกาสที่ทำให้ผมพัน ซึ่งอาการผมพันสำหรับผู้ที่ต่อผมนั้นแก้ได้ค่อนข้างยากกว่าผมปกติค่ะ

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมที่เน้นรักษาความชุ่มชื้น แต่ให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์กลุ่มจัดแต่งทรงผม

สิ่งที่ผู้ที่ต่อผมจะต้องระวังคือไม่ปล่อยให้หลังศีรษะแห้งเกินไป ดังนั้นอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถรักษาความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ เพื่อลดอาการระคายเคือง และที่ควรหลีกเลี่ยงคือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เพราะผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มักจะก่อให้หนังศีรษะระคายเคืองง่าย อีกทั้งหากทำความสะอาดออกไม่หมดอาจไปเกาะที่รอยต่อของผมและทำให้เกิดผมพันกันได้ง่ายค่ะ

3. ค่อย ๆ หวีผมทีละช่ออย่างเบามือ

เพราะผมต่อไม่ได้แข็งแรงเช่นเดียวกับผมจริงที่ติดกับหนังศีรษะ และผมจริงที่ถูกต่อผมก็อ่อนแอลงจากการถูกดึงรั้ง ดังนั้นควรจะค่อย ๆ หวีผมลงมาอย่างเบามือที่สุด ไม่หวีจากโคนลากลงมาถึงปลายผมทีเดียวและรุนแรง เพราะจะทำให้ผมที่ต่อเอาไว้ร่วง หรือหากอาการหนักผมจริงก็อาจร่วงติดตามผมที่ต่อมาด้วย

4. ก่อนนอนให้เก็บผมให้เรียบร้อย

เพื่อป้องกันผมพันกัน ก่อนนอนให้มัดผมให้เรียบร้อยก่อนนอนค่ะ โดยอาจใช้วิธีถักเปียแบบหลวม ๆ ไว้ค่ะ


ต่อผมแล้วผมร่วง ผมบางลง ทำอย่างไรดี

ต่อผมแล้วผมร่วง
ต่อผมแล้วผมร่วง ผมบางลง ทำอย่างไรดี

ถ้าใครผ่านการต่อผมมาแล้วเจอปัญหาผมร่วง ผมบางลง จะต้องทำอย่างไรให้ผมกลับมาแข็งแรงเช่นเดิม อันดับแรกคุณหมอแนะนำว่าให้รีบไปถอดผมต่อออกเลยค่ะ และหลังจากนั้นให้กลับมาบำรุงดูแลเส้นผมและหนังศีรษะของเราต่อดังนี้

1.ใช้แชมพูแก้ผมร่วง บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้กลับมาแข็งแรงขึ้น

วิธีแก้ผมร่วง ที่ทำได้ง่ายที่สุดคือการใช้แชมพูแก้ผมร่วงค่ะ เพราะในแชมพูสูตรแก้ผมร่วงมักมีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อเส้นผมและหนังศีรษะ บางแบรนด์ก็อาจผสมสารสำคัญที่ช่วยในการฟื้นฟูให้เส้นผมและหนังศีรษะกลับมาแข็งแรงขึ้นอีกด้วย

2.บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะด้วยการกินวิตามินหรืออาหารที่มีประโยชน์ 

เราสามารถบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะจากภายในได้ค่ะ โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ซึ่งร่างกายจะนำสารอาหารเหล่านี้ไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นผมและหนังศีรษะได้ค่ะ สารอาหารบำรุงผมที่แนะนำ เช่น ไบโอติน วิตามินบี วิตามินซี ซิงค์ โปรตีน เป็นต้น

3.หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี

เพราะในตอนนี้เส้นผมและหนังศีรษะอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะด้วยการใช้สารเคมี เช่น การจัดแต่งทรงผม ฉีดสเปรย์ รวมไปถึงการย้อมสีผม ดัดผมด้วยค่ะ เพราะสารเคมีเหล่านี้ยิ่งไปทำให้เส้นผมและหนังศีรษะถูกทำร้ายหนักขึ้น และยิ่งทำให้ผมขาดหลุดร่วงง่ายด้วยค่ะ

4.หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ผมร่วง

อาหารบางอย่างก็เป็นตัวเร่งให้เกิดอาการผมร่วงได้ง่าย เช่น อาหารที่มีไขมันสูง หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากต้องการฟื้นฟูเส้นผมและหนังศีรษะก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ไปก่อนนะคะ

5.หลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น

การใช้น้ำอุ่นในการสระผมจะทำให้หนังศีรษะสูญเสียความชุ่มชื้น และส่งผลให้ผมร่วงได้ง่าย ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นในการสระผมและใช้น้ำอุณหภูมิปกติแทนจะดีที่สุดค่ะ

6.หลีกเลี่ยงการใช้เป่าผมด้วยลมร้อน

เหตุผลเดียวกับการหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะเมื่อหนังศีรษะได้รับความร้อนและแห้งจะทำให้ผมหลุดร่วงง่ายขึ้นค่ะ ถ้าต้องการเป่าผมให้แห้งแนะนำว่าให้ใช้ลมเย็นในการเป่าผมจะดีกว่าค่ะ

7.หลีกเลี่ยงการนอนในขณะที่ผมไม่แห้ง

การนอนทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่แห้งมักทำให้หนังศีรษะอับชื้น ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตของเชื้อราค่ะ เมื่อหนังศีรษะติดเชื้อราขึ้นก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหารากผมไม่แข็งแรง ขาดร่วงง่ายนั่นเองค่ะ

8.ไม่หวีผมในขณะที่ผมเปียก

เส้นผมที่เปียกน้ำจะอ่อนแอกว่าเส้นผมที่แห้งสนิท ดังนั้นหากไม่ต้องการให้เส้นผมขาดหลุดร่วงง่ายก็ควรจะหลีกเลี่ยงการหวีผมขณะที่ผมเปียกค่ะ

9.ไม่มัดผมแน่นจนเกินไป

เพราะการมัดผมจะเป็นการทำให้หนังศีรษะถูกดึง ยิ่งหากมัดแน่นก็จะยิ่งทำให้รากผมถูกดึงไปมากเท่านั้น และส่งผลให้เกิดอาการผมร่วงง่ายค่ะ ดังนั้นจึงไม่ควรมัดผมแน่นเกินไป และหากเป็นไปได้การปล่อยผมตามธรรมชาติจะช่วยถนอมเส้นผมและหนังศีรษะได้ดีกว่าค่ะ

10.รักษาผมร่วง โดยแพทย์เฉพาะทาง

หากลองดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงปรับพฤติกรรมตามข้อแนะนำข้างต้นแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาผมร่วงจากการต่อผมได้ แนะนำว่าควรลองมาปรึกษาและเข้ารับการรักษากับแพทย์เฉพาะทางจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดค่ะ สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านสามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังนี้

  • ปลูกผม

หากอาการผมร่วงรุนแรงจนถึงขั้นหัวล้าน คุณหมอก็อาจแนะนำให้แก้ไขปัญหาด้วยการปลูกผมจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ โดยที่ Dr.Tarinee Hair Clinic มีวิธีปลูกผมหลายแบบ ได้แก่ ปลูกผม FUE ปลูกผม FUT และการปลูกผม DHI ซึ่งในแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปค่ะ

  • ฉีดสเต็มเซลล์ผม (Rigenera)

ถ้าอาการผมร่วง ผมบางยังไม่รุนแรงมากคุณหมอแนะนำเป็นการฉีดสเต็มเซลล์ผม ซึ่งเป็นการสกัดเอาเซลล์รากผมต้นกำเนิดมาฉีดกลับไปที่หนังศีรษะ วิธีนี้สามารถช่วยให้รากผมแข็งแรงขึ้น ลดอาการผมร่วงลงได้ค่ะ

  • ฉีด PRP ผม

การฉีด PRP ผมจะคล้ายกับการฉีดสเต็มเซลล์ผม สามารถช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม ลดอาการหลุดร่วงของเส้นผมได้ค่ะ เพียงแต่การฉีด PRP ผมจะใช้เกล็ดเลือดเข้มข้นของคุณเองที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อเซลล์รากผมแทนการใช้เซลล์ต้นกำเนิดนั่นเอง

  • เลเซอร์ LLLT

เลเซอร์ LLLT หรือ Low Level Laser Therapy เป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมโดยการใช้คลื่นแสงพลังงานต่ำไป ทำให้เซลล์รากผมทำงานดีขึ้นและทำให้ผมที่งอกขึ้นมาใหม่แข็งแรง อาการขาดหลุดร่วงลดลง


สรุปการต่อผม

การต่อผมเป็นวิธีที่ช่วยให้ผมหนาและยาวขึ้นได้ในทันทีด้วยการนำผมจากภายนอกมาต่อเข้ากับผมจริงของเราค่ะ โดยวิธีการต่อผมเองก็มีหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการต่อผมแบบกาว ต่อผมแบบกิ๊บ การต่อผมแบบเส้นต่อเส้น ต่อผมแบบเชือก และวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย 

แต่ไม่ว่าจะต่อผมด้วยเทคนิคไหนหรือวัสดุใดก็ตามสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือการต่อผมจะทำให้โคนผมถูกดึงรั้งอยู่ตลอดเวลา และทำให้เซลล์รากผมอ่อนแอและนำมาสู่ปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านได้ค่ะ

ถึงแม้ว่าความสวยจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ก่อนจะไปต่อผมคุณหมออยากให้ลองพิจารณาถึงข้อดีข้อเสีย ผลลัพธ์ในระยะยาวก่อนตัดสินใจทำค่ะ ว่าคุ้มหรือไม่ ทำแล้วต้องมานั่งแก้ไขปัญหาที่แก้ยากกว่าเดิมหรือเปล่า

และถ้าหากต่อผมไปแล้วเกิดอาการผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้านคุณหมอแนะนำให้รีบถอดออกและเข้ามาปรึกษาวิธีแก้ผมร่วงกับแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุดค่ะ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ประสบปัญหาผมร่วงจากการต่อผม สนใจเข้ารับคำปรึกษา สามารถติดต่อคุณหมอได้ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic ตามช่องทางนี้