ปัญหาผมร่วงเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะผมร่วงระยะทีโลเจน หรือผมร่วงทั่วทั้งศีรษะที่เกิดหลังจากเจ็บป่วยไม่สบาย หรือหลังทานยาบางอย่าง แล้วเกิดผมร่วงมากกว่าปกติ นอกจากเป็นปัญหาที่พบบ่อย ยังเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลใจ หรือความไม่มั่นใจ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับภาวะผมร่วงทีโลเจนกันมากขึ้น ว่าเกิดจากอะไร คืออะไร และการรักษาเป็นอย่างไร
telogen effluvium คืออะไร
 โดยปกติผมเราจะมีระยะการเจริญเติบโตของผม คือ
- Anagen หรือระยะการเจริญเติบโตของเส้นผม ยิ่งระยะนี้ยาวผมยิ่งยาวและแข็งแรง
 - Catagen หรือระยะหยุดการสร้าง ก่อนที่จะหลุดร่วงออกไป
 - Telogen หรือระยะพักแล้วรากผมจะเคลื่อนตัวสูงขึ้นจนหลุดออกไป ซึ่งปกติจะมีระยะร่วงปกติที่ 100 วัน แล้วเข้าสู่ระยะสร้างใหม่ ซึ่งจะพบแค่ 5-10 % ของเส้นผมเราทั้งศีรษะเท่านั้น
 
ผมร่วงระยะทีโลเจน คือ ผมที่หลุดร่วงแบบทั่วๆ ศีรษะ ซึ่งจะมากกว่าการร่วงระยะทีโลเจนปกติ คือมากกว่า 30% หรือพบว่าผมร่วงมากกว่า 200 เส้นต่อวัน และเมื่อนำผมที่ร่วงมาดูบริเวณรากผมจะยังพบกระเปาะปลายรากผม คือเป็นผมระยะทีโลเจน
 โดยผมร่วงระยะทีโลเจนจะแบ่งได้สองแบบคือ
- Acute telogen effluvium หรือผมร่วงระยะทีโลเจนแบบฉับพลัน มีผมร่วงแบบทีโลเจนในระยะ 3-6 เดือน
 - Chronic telogen effluvium หรือผมร่วงระยะทีโลเจนแบบเรื้อรัง คือมีผมร่วงแบบทีโลเจนนานมากกว่า 6 เดือน
 
ซึ่งการแยกทั้งสองแบบออกจากกัน จะช่วยในการตัดสินใจในการตรวจ วินิจฉัย และหาสาเหตุต่อไป
สาเหตุของโรคผมร่วงทั้งหัว (telogen effluvium)
 สาเหตุของการเกิดผมร่วงระยะทีโลเจน เกิดได้จากหลายปัจจัยที่มารบกวนวงจรการเจริญเติบโตของผมให้ผิดปกติไป โดยสาเหตุที่พบบ่อยมีดังต่อไปนี้
- หลังคลอดบุตร เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จึงทำให้เกิดผมร่วงในช่วง เดือนที่ 3-5 หลังคลอดได้ ซึ่งอาการผมร่วงจะค่อยๆดีขึ้น
 - ผมร่วงของเด็กแรกเกิด หรือเรียกว่าการผลัดเส้นผมอ่อนของเด็กทารก
 - ผมร่วงหลังเจ็บป่วยไม่สบาย เช่น เป็นไข้เลือดออก เป็นโควิด
 - หลังผ่าตัด โดยเฉพาะหลังดมยาสลบเป็นเวลานาน หรือความเครียดหลังผ่าตัด
 - หลังได้รับอุบัติเหตุ
 - ความเครียด
 - น้ำหนักลดเยอะมากในเวลาอันสั้น หรือการทานอาหารไม่ครบหมู่ เช่น การทานมังสวิรัติ
 - โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์
 - การโดนแสงแดดจัดเกินไป
 - โรคผิวหนังบางโรค เช่น Erythroderma
 - ยาบางอย่าง เช่น ยาคุมกำเนิด ยารักษาสิว ยากันชักบางตัว
- รายชื่อยาที่ทำให้ผมร่วงระยะทีโลเจน คือ
- ยาลดความดันโลหิต เช่น ACE inhibitor
 - ยากันชัก เช่น Levodopa
 - ยารักษาโรคซึมเศร้า เช่น fluoxetine (Prozac) และ sertraline (Zoloft)
 - ยารักษาโรคกระเพาะ เช่น cemetidine
 - ยารักษาสิว เช่น isotretinoin (Accutane)
 - ยาลดการอักเสบ เช่น Naproxen หรือยากลุ่ม NSAID
 - Steroids
 
 
 - รายชื่อยาที่ทำให้ผมร่วงระยะทีโลเจน คือ
 
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สาเหตุผมร่วงผู้หญิง และ สาเหตุผมร่วงผู้ชาย ที่ควรรู้ไว้ เพื่อการรักษาที่ถูกจุด
อาการของโรคผมร่วงทั้งหัว (telogen effluvium)
 อาการผมร่วงจะเป็นผมร่วงทั่วศีรษะ อาจจะพบว่ามีอาการผมร่วงหลังจากสาเหตุเช่นเจ็บป่วยไม่สบาย 1-3 เดือนหลังจากหายป่วย และอาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายและดีขึ้นใน 3-6 เดือน จะเริ่มเห็นไรผมขึ้นใหม่ ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการ และไม่มีผื่นหรือบาดแผลที่ผิวหนังศีรษะ
บางรายอาจจะมีภาวะเจ็บทั่วศีรษะหรือที่เรียกว่า Trichodynia นำมาก่อนจะมีอาการผมร่วง หรือ บางรายอาจจะเล็บเป็นร่องในแนวขวงหรือที่เรียกว่า Beau lines เนื่องจากเคยมีภาวะเจ็บป่วยไม่สบาย แล้วไปรบกวนการเจริญเติบโตของการสร้างเล็บด้วยเช่นเดียวกัน
อาการผมร่วงทั่วๆ ศีรษะจะค่อยๆ ดีขึ้นใน 3-6 เดือน จะเริ่มเห็นไรผมขึ้นตามไรผมด้านหน้า หรือ แสกผม แต่บางรายอาจจะไม่สามารถฟื้นฟูได้เต็มที่ แล้วทำให้ผมร่วงบางถาวร หรือกลายเป็นผมบางแบบกรรมพันธุ์ต่อไปได้
โรคผมร่วงทั้งหัว (telogen effluvium) ต้องพบแพทย์ไหม
การที่มีผมร่วงแบบทั่วศีรษะนั้นควรได้รับการตรวจและประเมินโดยแพทย์ เพื่อดูว่าควรหาสาเหตุต่อไปหรือไม่ หรือมีลักษณะจะเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่ต้องได้รับการรักษาต่อไปหรือไม่ หรือต้องวินิจฉัยแยกโรคอื่นๆ ที่ควรได้รับการรักษาในระยะเริ่มจะดีกว่าเมื่อผมร่วงบางไปมากแล้ว
โดยการวินิจฉัยจะเริ่มจากการซักประวัติ แล้วตรวจเส้นผม และหนังศีรษะ ผิวหนัง และ เล็บ รวมไปถึงการใช้ tricoscope และ dermoscope ส่องตรวจที่หนังศีรษะ รวมไปถึงบางรายอาจจะต้องเจาะเลือดหาสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย
วิธีรักษาโรคผมร่วงทั้งหัว (telogen effluvium)
การรักษาผมร่วงระยะทีโลเจน นั้นจะเน้นรักษาที่สาเหตุที่ทำให้เกิด เช่น ถ้ามีภาวะซีด เป็นไทรอยด์ ก็ควรได้รับการรักษากับคุณหมออายุรกรรม หรือถ้าเป็นหลังจากไม่สบายเป็นไข้เลือดออก เป็นโควิด หรือหลังน้ำหนักลดลงเยอะ เมื่อร่างกายไปพักผ่อนและฟื้นฟูปรับตัวอาการผมร่วงจะค่อยๆ ดีขึ้น จึงเน้นในเรื่องสาเหตุแล้วแก้ไขสาเหตุเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี พบว่า 35% ของคนไข้ไม่ทราบสาเหตุของผมร่วงชัดเจน การรักษาจะมุ่งเน้นไปในแนวการบำรุง ฟื้นฟูหนังศีรษะและเส้นผม และหลีกเลี่ยงการทำร้ายเส้นผมและหนังศีรษะ โดยมีคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ทานอาหารให้ครบหมู่
 - พักผ่อนให้เพียงพอ ผ่อนคลายความเครียด
 - สระผมแบบเบามือ และหลีกเลี่ยงการทำเคมีกับผมไปก่อนจนกว่าจะหยุดผมร่วง
 - หวีผมเบามือ
 - ยาทากลุ่ม minoxidil ช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของผมได้
 - ทานวิตามินบำรุงผม เพื่อช่วยเรื่องการสร้างของเส้นผมให้แข็งแรง เช่น ไบโอติน และซิงค์
 - รักษาสาเหตุ เช่น ขาดวิตามินดี เปลี่ยนชนิดของยาคุมกำเนิด
 
สรุป Telogen Effluvium รักษาที่ไหนดี
ผมร่วงทั่วศีรษะระระยทีโลเจน เป็นผมร่วงที่พบบ่อย โดยพบว่ามีผมร่วงหลังจากเจ็บป่วยไม่สบาย 1-3 เดือน หลังจากนั้นจะมีผมร่วงทั่วๆ ศีรษะ แบบไม่มีแผลที่หนังศีรษะต่อไปได้ 3-6 เดือนแล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อร่างกายได้ฟื้นฟูและปรับตัว หรือหยุดสาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วงไป แต่ถ้าผมยังร่วงต่อเนื่อง ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ว่ายังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดผมร่วงอีกหรือไม่ เพื่อแก้ไขสาเหตุ หากปล่อยไว้เนิ่นนานผมที่ร่วงบางอาจจะเป็นผมบางถาวร หรือผมร่วงบางแบบกรรมพันธุ์ที่รักษายากขึ้นได้
หากท่านกำลังกังวลใจอยากปลูกผมเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ หรือตรวจหาสาเหตุให้ชัดเจนว่าเป็นผมร่วงแบบนี้หรือไม่ แนะนำนัดเข้ามาตรวจกับคุณหมอแก้ว พญ.ธาริณี ก่อวิริยกมล ที่ Dr. Tarinee Hair clinic โทร 0889519193 ได้เลยนะคะ
- Website : Dr.Tarinee Hair Clinic
 - Line : @drtarinee
 - Facebook : Dr.Tarinee Hair Clinic ปลูกผม รักษา ผมร่วง ผมบาง
 
Ref.
Telogen effluvium (hair shedding) | DermNet (dermnetnz.org)
Medications that cause hair loss: List and what to do (medicalnewstoday.com)
