ปลูกผม

ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน เป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนสูญเสียความมั่นใจไม่ใช่น้อย แม้จะใช้แชมพูเร่งผมหนาหรือยาแก้ผมร่วง ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ การศัลยกรรมปลูกผมบาง ผมร่วงที่ช่วยให้ผมขึ้นได้จริงแบบถาวร จึงกลายเป็นทางออกของใครหลายคน 

ทั้งนี้ การปลูกผมเป็นหัตถการที่ต้องดำเนินการด้วยแพทย์เฉพาะทาง ผู้ที่สนใจปลูกผมจึงควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนค่ะ ในบทความนี้หมอจะมาพามารู้จักการปลูกผมให้มากขึ้น เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณค่ะ


การปลูกผม คืออะไร

การปลูกผม (Hair Transplant) คือ การใช้เซลล์ต้นกำเนิดผมจากท้ายทอยมาปลูกถ่ายยังบริเวณที่ต้องการรักษา หรือปลูกถ่ายเพิ่มแนวไรผม เพื่อเสริมให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ละมุนขึ้นได้ค่ะ นอกจากนี้ยังสามารถปลูกผมทับรอยแผลเป็นที่แหว่งไปเพื่อปกปิดได้เช่นกัน ซึ่งผมที่ขึ้นมาใหม่นี้ก็สามารถอยู่ได้อย่างถาวร แม้จะโกน ถอน หรือตัดออกไปก็กลับมางอกใหม่ได้เหมือนเส้นผมปกติค่ะ


ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน เกิดจากอะไร?

ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกผม หรือใช้ยาปลูกผมหัวล้าน เพื่อกระตุ้นการงอกใหม่ของเส้นผม โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยของอาการผมร่วง ผมบาง หัวล้าน มีดังนี้ค่ะ

  • พันธุกรรม เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผมบางหรือหัวล้าน โดยเฉพาะในผู้ชาย เรียกว่า Androgenetic Alopecia แต่ผู้หญิงก็สามารถพบได้เช่นกัน
  • ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนบางชนิด อาจส่งผลให้รากผมอ่อนแอและหลุดร่วงง่าย
  • ความเครียด ความเครียดสะสมหรือเหตุการณ์กระทบจิตใจรุนแรง ทำให้เส้นผมเข้าสู่ช่วงหลุดร่วงเร็วกว่าปกติ
  • ภาวะโภชนาการไม่สมดุล การขาดโปรตีน ธาตุเหล็ก หรือวิตามินบี ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
  • มีโรคประจำตัว เช่น โรคไทรอยด์ ภูมิแพ้ หรือโรคผิวหนังบางชนิด อาจเป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้ผมร่วงผิดปกติ
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น เคมีบำบัด หรือยาลดไขมันในเลือด อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผมร่วง
  • การดูแลเส้นผมไม่ถูกวิธี การทำสี ดัด ยืดผมบ่อย ๆ หรือสระผมด้วยน้ำร้อน ล้วนส่งผลให้ผมอ่อนแอและขาดหลุดร่วงง่าย

ทั้งนี้ ปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านสามารถทำการรักษาได้ ซึ่งปัจจุบันมีวิธีรักษาให้เลือกหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานยาลดระดับฮอร์โมน การใช้ยาทาภายนอก การรักษาด้วยเลเซอร์ โปรแกรมฉีด PRP ผม และการศัลยกรรมปลูกผม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ปัญหาผมร่วง ผมบาง และหัวล้านของแต่ละคนจะมีความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ก็ควรปรึกษาคุณหมอก่อนทำการรักษาทุกครั้งนะคะ


ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน เกิดจากอะไร?

การปลูกผมมีกี่แบบ
การปลูกผมมีกี่แบบ

การปลูกผมเพื่อแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง แบ่งออกเป็น 2 วิธี ได้แก่ การปลูกผม FUE และการปลูกผม FUT ค่ะ ในหัวข้อนี้หมอจะพาไปดูว่าการปลูกผมมีวิธีอะไรบ้าง และแต่ละวิธีต่างกันอย่างไรค่ะ

เทคนิคปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดเปิดแผลใหญ่ คุณหมอจะใช้หัวเจาะขนาดเล็กดูดกราฟผมออกจากบริเวณท้ายทอยทีละกอ แล้วนำไปปลูกผมในจุดที่มีปัญหาผมบางหรือหัวล้าน ซึ่งจุดเด่นของเทคนิคปลูกผม FUE ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นชัดเจน ฟื้นตัวเร็ว และเส้นผมที่ขึ้นใหม่ดูเป็นธรรมชาติ

เทคนิคปลูกผม FUT หรือ Strip Method คือการผ่าตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยเป็นแนวยาวเพื่อนำเซลล์ต้นกำเนิดผมออกมา แล้วนำไปแยกกราฟภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ก่อนปลูกผมกลับในจุดที่ต้องการ ซึ่งจุดเด่นของเทคนิคปลูกผม FUT จะทำให้กราฟผมมีความสมบูรณ์ เหมาะกับผู้ที่ต้องปลูกผมในพื้นที่กว้าง และช่วยให้ผมบริเวณท้ายทอยดูหนาขึ้น


การปลูกผมร่วมกับการรักษาวิธีอื่น ๆ

ปลูกผมแบบไหนดี
ปลูกผมแบบไหนดี

เราสามารถปลูกผมร่วมกับการรักษาแบบอื่น ๆ ได้ค่ะ และเป็นสิ่งที่หมอแนะนำให้ทำด้วย เพื่อให้การปลูกผมประสบความสำเร็จ และให้ได้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น โดยหัตถการที่นิยมรักษาควบคู่กับการปลูกผมก็มีดังนี้ค่ะ 

  • การฉายแสงเลเซอร์ LLLT เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้เส้นผมสามารถงอกใหม่ได้เร็วขึ้นค่ะ 
  • โปรแกรมฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น กระตุ้นผมจะช่วยบำรุงเซลล์ต้นกำเนิดผมให้แข็งแรง ให้แผลหายเร็วขึ้น
  • การใช้ยาทาหรือรับประทานยาร่วมกับการปลูกผม เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีภาวะผมบางกรรมพันธุ์ และมีโอกาสผมร่วงในบริเวณที่ไม่ได้ทำการปลูกผม ซึ่งจะทำให้ผมดูบางลงค่ะ
  • การรักษาด้วยวิธีเซลล์บำบัด เป็นการใช้เซลล์พิเศษช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นผมใหม่และซ่อมแซมรากผมที่อ่อนแอ ให้ผมกลับมาแข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ
  • การรักษาด้วย low level laser ช่วยกระตุ้นรากผมและเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นผมโดยไม่ต้องผ่าตัด

ปลูกผมถาวรได้ผลจริงไหม?

ปลูกผมถาวรให้ผลลัพธ์จริงและดูเป็นธรรมชาติค่ะ เนื่องจากเป็นการย้ายรากผมจากบริเวณที่แข็งแรง เช่น ท้ายทอย ไปปลูกผมในจุดที่มีปัญหาผมบางหรือหัวล้าน โดยสามารถเลือกเทคนิคผ่าตัดปลูกผมได้หลากหลาย เช่น FUE หรือ FUT ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ ความสำเร็จของการปลูกผมขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผม หนังศีรษะ และการดูแลหลังหัตถการอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ในช่วง 6–12 เดือนหลังการรักษา และผมที่ปลูกจะงอกขึ้นมาอย่างแข็งแรงและอยู่ได้ในระยะยาว


ข้อดีของการปลูกผมที่ควรรู้

การปลูกผมมีข้อดีมากมายที่ควรรู้ ไม่เพียงช่วยรักษาภาวะผมร่วง ผมบาง ทั้งจากอายุและกรรมพันธุ์เท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ปัญหาผมแหว่งจากแผลเป็นได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย และช่วยปรับรูปหน้าให้ดูละมุนขึ้น ผมที่ปลูกใหม่สามารถงอกและเจริญเติบโตได้เหมือนผมธรรมชาติ และถึงแม้จะปลูกผมเพียงครั้งเดียวด้วยวิธี FUE หรือ FUT ก็สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถาวรได้


ข้อจำกัดของการปลูกผม

การปลูกผมมีข้อจำกัดสำคัญที่คนไข้ควรทราบค่ะ โดยเฉพาะในช่วงแรกหลังปลูกผม คนไข้ต้องดูแลตนเองอย่างเคร่งครัด เนื่องจากกราฟผมอาจหลุดออกมา และไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ อีกทั้งวิธีนี้ยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะผมบางทั่วศีรษะ หรือมีผมร่วงเป็นหย่อม เพราะต้องอาศัยรากผมที่แข็งแรงในปริมาณมากค่ะ และในบางกรณี เช่น ผู้ที่มีโรคทางหนังศีรษะหรือโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง การปลูกผมอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม


การปลูกผมเหมาะกับใครบ้าง

การปลูกผมจะเป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหน้าผากกว้างได้ดี แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคน การพิจารณาความเหมาะสมของคนไข้เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้ได้ผลการรักษาที่น่าพอใจ โดยกลุ่มคนไข้ที่เหมาะสมกับการปลูกผมมีดังนี้ค่ะ

  • คนไข้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ละมุนขึ้น
  • คนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจและเป็นที่กังวลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
  • คนไข้ที่มีปัญหาหน้าผากเถิก หน้าผากกว้างและเป็นลักษณะที่คนไข้ไม่ต้องการ
  • คนไข้ที่ต้องการปลูกผมเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น

การปลูกผมไม่เหมาะกับใครบ้าง

การปลูกผมมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ทำให้คนไข้อีกหลาย ๆ คนที่มีปัญหาลักษณะนี้ไม่เหมาะกับหัตถการนี้

  • คนไข้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางทั่วศีรษะ เนื่องจากจะทำให้มีจำนวนกราฟผมไม่เพียงพอต่อการนำไปปลูกผมและทำให้บริเวณที่นำผมออกบางลงได้
  • คนไข้ที่มีการอักเสบบนหนังศีรษะและโรคยังอยู่ในช่วงกำเริบ เช่น หนังแข็ง ผมร่วงเป็นหย่อม ผมร่วงจากพังผืดใต้ผิว เป็นต้น
  • คนไข้ที่มีโรคประจำตัวที่เป็นสาเหตุของการหลุดร่วงของเส้นผม เช่น แพ้ภูมิตัวเอง
  • คนไข้โรคมะเร็งที่อยู่ในช่วงการรักษา
  • คนไข้ที่ติดเชื้อบนหนังศีรษะหรือติดเชื้อในกระแสเลือด
  • คนไข้ที่มีภาวะเลือดหยุดไหลยาก
  • คนไข้สตรีมีครรภ์และกำลังให้นมบุตร

การเตรียมตัวก่อนปลูกผม

ปลูกผมเจ็บไหม
ปลูกผมเจ็บไหม

การเตรียมตัวที่ถูกต้องก่อนทำหัตถการปลูกผม จะสามารถช่วยให้การรักษาประสบความสำเร็จและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนปลูกผม มีดังนี้ค่ะ

  1. นัดหมายวันที่เข้ารับการทำหัตถการปลูกผม โดยพิจารณาไปถึงหลังวันผ่าตัดด้วยว่ามีกิจกรรมหรือธุระใด ๆ ที่อาจส่งผลต่อการปลูกผมหรือไม่
  2. หากมีโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือมีภาวะแพ้ยาชาเฉพาะที่ คนไข้ต้องแจ้งให้หมอทราบทันที
  3. หากคนไข้มียาที่รับประทานประจำหรือกำลังรับประทานยาอยู่ ต้องแจ้งให้คุณหมอทราบทุกครั้ง 
  4. ก่อนทำการปลูกผม 7 วัน คนไข้ต้องงดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี ยาสลายลิ่มเลือด และกลุ่มวิตามินสมุนไพรต่าง ๆ เป็นต้น
  5. งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ทั้งก่อนและหลังทำหัตถการปลูกผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง 
  6. ก่อนวันปลูกผม คนไข้ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
  7. วันเข้ารับการปลูกผม แนะนำให้คนไข้รับประทานอาหารและน้ำมาก่อนค่ะ เพราะการปลูกผมจะใช้เวลาค่อนข้างนานหลายชั่วโมง 
  8. คนไข้ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการถอดเปลี่ยนชุด เช่น เสื้อคอกว้าง หรือเสื้อกระดุมหน้า

ขั้นตอนการปลูกผม

การปลูกผมถาวรเพื่อรักษาอาการผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน มีขั้นตอนดังนี้ค่ะ

  1. การประเมินเบื้องต้น คุณหมอตรวจสอบสภาพหนังศีรษะและเส้นผมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการผ่าตัดปลูกผมและเลือกเทคนิคปลูกผมที่เหมาะสม
  2. รับคำแนะนำจากหมอ คุณหมอจะอธิบายรายละเอียดการรักษา ตั้งแต่การเตรียมตัว ขั้นตอนการรักษา ผลลัพธ์ที่คาดหวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  3. จัดเตรียมพื้นที่ เป็นการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพูฆ่าเชื้อ พร้อมถ่ายภาพเพื่อติดตามผลการรักษา
  4. ออกแบบแนวผม การออกแบบแนวผมแพทย์จะวาดแนวผมที่ต้องการปลูกผมและคำนวณปริมาณกราฟผมที่จำเป็น คนไข้สามารถร่วมออกแบบได้ค่ะ
  5. เก็บเกี่ยวกราฟผม ซึ่งจะฉีดยาชาเฉพาะที่และดึงเซลล์ต้นกำเนิดผมออกจากบริเวณท้ายทอยด้วยเทคนิค FUT หรือ FUE
  6. จัดเตรียมกราฟผม นำเอากราฟผมที่แยกออกมาแช่ในน้ำยาพิเศษเพื่อรักษาคุณภาพ คนไข้สามารถพักรับประทานอาหารได้ระหว่างรอ
  7. การปลูกผมกลับ โดยจะฉีดยาชาบริเวณที่จะปลูกผมและใช้เครื่องมือเจาะนำกราฟผมปลูกกลับเข้าไป ใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่
  8. ฉายแสงรักษา หลังปลูกผมเสร็จจะได้รับการฉายแสงจากเครื่อง Heallite หรือ LLLT เพื่อกระตุ้นให้แผลหายเร็วขึ้น
  9. ติดตามผล คนไข้สามารถกลับบ้านพักฟื้นได้ หลังจากนั้นแพทย์จะนัดมาฉายแสงอีก 1–2 ครั้งในวันถัดไปเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัว

การดูแลตนเองหลังปลูกผม

ความสำเร็จของการปลูกผมมักขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ค่ะ ซึ่งหมอก็มีข้อแนะนำในการดูแลตัวเอง ดังนี้

  • ช่วง 1-3 วันแรกหลังปลูกผม แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาเพื่อทำความสะอาดแผล เส้นผม และหนังศีรษะให้ค่ะ คนไข้ห้ามสระผมเองในช่วงนี้เด็ดขาด เพราะมีโอกาสสูงที่กราฟผมจะหลุดออกมา
  • เมื่อแพทย์อนุญาตให้สระผมเองแล้ว แนะนำให้ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนหรือแชมพูเด็กอย่างน้อย 1 เดือนค่ะ
  • รับประทานยาฆ่าเชื้อให้ครบตามที่แพทย์จ่ายให้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการดื้อยาฆ่าเชื้อในอนาคต
  • หากมีอาการปวดแผลผ่าตัด ก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดวันละ 1 เม็ดได้
  • งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ก่อนและหลังปลูกผมอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
  • งดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกหรือสัมผัสกับน้ำ อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังปลูกผม
  • คนไข้สามารถตกแต่ง ตัดแต่งทรง หรือย้อมสีผม หลังปลูกผมไปแล้วอย่างน้อย 4 สัปดาห์
  • แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาดูแผลและติดตามอาการในช่วง 1-5 วันแรก และจะเพิ่มระยะนัดเรื่อย ๆ เพื่อติดตามผล
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกมาก หนังศีรษะไม่มีความรู้สึก หรือปวดแผลมาก ให้รีบเข้ามาพบแพทย์ทันทีค่ะ

การดูแลรักษาผมระยะยาวทำได้อย่างไรบ้าง

การดูแลรักษาผมระยะยาวหลังปลูกผมถาวรเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผมงอกออกมาแข็งแรง สวยงาม และอยู่ได้ยาวนาน โดยข้อควรปฏิบัติหลังปลูกผมที่แพทย์แนะนำมีดังนี้ค่ะ

  • การดูแลเบื้องต้นและการสระผม หลังศัลยกรรมปลูกผมควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนและสระผมเบา ๆ เพื่อไม่ให้กระทบแผลปลูกผม นอกจากนี้ควรบำรุงหนังศีรษะด้วยเซรั่มเพื่อให้หนังศีรษะชุ่มชื้นและสุขภาพดีค่ะ
  • หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง คนไข้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผมหรือเครื่องม้วนผม เนื่องจากอาจทำให้ผมเสียหายได้ ในขณะเดียวกันการจัดการความเครียดก็มีความสำคัญเพราะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดผมร่วงได้ค่ะ
  • บำรุงจากภายใน การรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุจะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของผมที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีปลูกผมและผ่าตัดปลูกผมค่ะ

ความเสี่ยงจากการทำศัลยกรรมปลูกผม

ปลูกผม ผลลัพธ์
ปลูกผม ผลลัพธ์
ผ่าตัดปลูกผม
ผ่าตัดปลูกผม

การศัลยกรรมปลูกผมไม่ว่าจะเป็นผ่าตัดปลูกผมหรือปลูกผมไม่ต้องผ่าตัด ย่อมมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกับการรักษาทางการแพทย์อื่น ๆ เช่น แผลจากการปลูกผมอาจเกิดรอยแผลเป็นหรือการติดเชื้อได้ หากไม่ดูแลอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ผมที่ปลูกอาจไม่ขึ้นตามที่คาดหวัง โดยเฉพาะเมื่อทำกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นก่อนปลูกผมควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีค่ะ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการปลูกผม (FAQ)

ผู้หญิงและผู้ชายที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง จะใช้วิธีปลูกผมที่ต่างกัน เนื่องจากลักษณะการร่วงของผมไม่เหมือนกัน โดยผู้ชายมักจะมีแนวผมเถิกหรือเว้าชัดเจน ส่วนผู้หญิงจะผมบางทั่วศีรษะ จึงต้องวางแผนปลูกผมให้เหมาะกับแต่ละเพศ

การปลูกผมเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยและเกิดผลข้างเคียงน้อยค่ะ แต่หากคนไข้มีประวัติแพ้ยาชาหรือมีการติดเชื้อ ก็อาจอันตรายถึงชีวิตได้ ก่อนปลูกผมแพทย์จึงต้องสอบถามและซักประวัติคนไข้เพื่อความปลอดภัยนั่นเองค่ะ

หลังปลูกผมอาจมีอาการผมร่วงช่วงแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เรียกว่า “shock loss” แต่ผมจะเริ่มงอกใหม่ภายใน 3–4 เดือน ถ้าหากกังวลสามารถดูรีวิวปลูกผมจากผู้ที่เคยทำมาก่อนได้ และควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมปลูกผมเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมค่ะ


คืนความมั่นใจอีกครั้ง! ด้วยการปลูกผม แก้ปัญหาผมบางอย่างตรงจุด

การปลูกผม เป็นการศัลยกรรมเพื่อรักษาภาวะผมร่วงและผมบาง ซึ่งจะช่วยให้คนไข้กลับมามั่นใจได้อีกครั้ง การทำหัตถการปลูกผมเพียงครั้งเดียวเส้นผมก็สามารถงอกขึ้นใหม่ได้อย่างถาวรค่ะ และเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ต้องการ คนไข้จึงควรเลือกคลินิกปลูกผมอย่างรอบคอบค่ะ

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาผมร่วง ผมบาง และต้องการปรึกษาการปลูกผมกับแพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมและหนังศีรษะ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางด้านล่างนี้ คุณหมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ


Dua, A & Dua, K. (2010). Follicular Unit Extraction Hair Transplant. Journal of Cutaneous and Aesthetic Surgery, 3(2): 78-81. doi: 10.4103/0974-2077.69015

Jewell, T. (2020, July 14). Everything to Know About a FUE Hair Transplant. Healthline. https://www.healthline.com/health/cosmetic-surgery/everything-to-know-about-a-fue-hair-transplant  

Jiménez-Acosta, F. (2010). Follicular Unit Hair Transplantation: Current TechniqueTécnica actual del trasplante de pelo de unidades foliculares. Actas Dermo-Sifiliográficas (English Edition), 101(4): 291-306. https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1578219010706399