ปัญหาผมแห้งเสีย
ปัญหาผมแห้งเสีย สร้างความรำคาญใจให้กับใครหลายคน ทำให้หมดความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือออกไปนอกบ้านแล้วผมแห้งเสีย ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก หรือบางคนผมเสียมากจนขาดหลุดร่วงไปเลย ซึ่งหลายคนอาจจะยังบำรุงผมเสียได้ไม่ถูกวิธี จะดีกว่าไหมถ้ารู้วิธีรักษาผมแห้งเสียอย่างตรงจุด วันนี้ Dr.Tarinee Clinic พามาดู 8 เคล็ดลับ บำรุงผมแห้งเสีย ให้กลับมาสวยงาม ดูดี มีน้ำหนัก และสามารถทำตามกันง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน จะมีอะไรบ้างมาดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
เจาะลึกสาเหตุผมแห้งเสีย
ก่อนที่จะไปทราบวิธีรักษาผมแห้งเสียให้กลับมาเป็นผมที่สลวย เงางามนั้น เรามาทราบถึงสาเหตุปัญหากันก่อนค่ะว่าผมแห้งเสียที่หลายๆ คนมักเผชิญนั้นมักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเรา แล้วพฤติกรรมเหล่านั้นที่มีส่วนทำให้ผมแห้งเสียมีอะไรบ้างนั้นมาดูพร้อมกันค่ะ
1.อายุ
อายุถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ผมเกิดการแห้งเสีย นั่นเป็นเพราะว่าเมื่อคนเราอายุมากขึ้นทั้งเพศหญิงและเพศชาย ฮอร์โมนในร่างกายจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายส่วนอื่นๆ ยังส่งผลให้เส้นผมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะมีลักษณะผมบาง ผมร่วงมากขึ้นในแต่ละคน หรือจะมีอาการผมงอก และในบางคนอาจมีสุขภาพที่เปลี่ยนไปอย่างผมแห้งเสียอีกด้วย
2.การใช้สารเคมีกับเส้นผม
ปัจจุบันแฟชั่นการทำผมหลายๆ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าหลายคนทำสีผม ทำไฮไลท์ ดัดลอน ยืดผม เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดี เสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น แต่ทราบหรือไม่ว่าการใช้สารเคมีกับเส้นผมจากการทำผมต่างๆ ที่ได้กล่าวไปถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผมเสียจากการยืด ผมแห้งเสีย ชี้ฟูมากยิ่งขึ้น
เพราะสารเคมีที่ใช้กับเส้นผมจะเข้าไปดูดความชุ่มชื้นออกจากเส้นผม เมื่อใช้ไปนานๆ จึงทำให้ผมแห้ง ผมชี้ฟู ผมอ่อนแอ แลดูไม่มีน้ำหนัก
3.การสระผมที่บ่อยเกินไป
การสระผมบ่อยเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีนะคะ เพราะการสระผมบ่อยๆ จะทำให้หนังศีรษะแห้ง หรืออาจเกิดหนังศีรษะลอก เกิดรังแค พร้อมทั้งยังสามารถส่งผลไปถึงเส้นผมขาดความชุ่มชื้นอีกด้วย เมื่อเส้นผมขาดความชุ่มชื้นจึงทำให้ผมแห้งเสีย ไร้น้ำหนัก ฉะนั้นใครที่ชอบสระผมทุกวันแนะนำให้สระผมวันเว้นวันแทนการสระผมทุกวันค่ะ เพื่อเป็นการไม่ทำให้น้ำมันบนหนังศีรษะเสียสมดุลนั่นเอง
4.การใช้ความร้อนกับเส้นผม
นอกจากการใช้สารเคมีแล้ว การใช้ความร้อนกับเส้นผมก็สามารถทำให้ผมแห้งเสีย ผมไม่มีน้ำหนักได้เหมือนกัน เพราะความร้อนจะทำลายเส้นผม ทำให้ผมเกิดการอ่อนแอ แห้งเสียได้ง่าย
5.มลภาวะและอากาศ
หลายท่านอาจคาดไม่ถึงว่ามลภาวะและสภาพอากาศในชีวิตประจำวันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมแห้งเสียได้อย่างอากาศที่ร้อน แสงแดดจัด อากาศแห้ง ลมแรง เป็นต้น
วิธีรักษาผมแห้งเสีย ทำอย่างไรได้บ้าง
วิธีรักษาผมแห้งเสียต้องทำอย่างไร ? เมื่อเกิดอาการผมแห้งเสีย ผมแตกปลาย ทำให้ผมฟูไม่มีน้ำหนัก เป็นปัญหาที่หลายคนกังวลใจ เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง แต่วิธีรักษาผมแห้งเสียก็สามารถทำตามได้ไม่ยาก สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เมื่อปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดและเลือกวิธีที่เหมาะสมก็จะทำให้ผมแห้งเสียกลับมาดูดีมีน้ำหนัก ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสียวิธีแรกคือ การรับประทานอาหารบำรุงผม ที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ จะช่วยให้เส้นผมได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารอย่างปลาแซลมอน ปลาทู ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน หอยนางรม ล้วนเป็นอาหารที่มีโอเมก้า-3 และเปปไทด์จะช่วยบำรุงให้ผมเงางาม สลวย นอกจากอาหารที่มีเปปไทด์และโอเมก้า-3 แล้ว อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่นอกจากจะช่วยบำรุงสุขภาพให้ห่างไกลมะเร็งแล้ว ยังช่วยบำรุงเส้นผมให้ดูดกดำด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะบลูเบอรี่ มะเขือเทศ บร็อคโคลี่ เป็นต้น
หลายท่านอาจมีการรับประทานวิตามินบำรุงผม เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี12 วิตามินดี ไบโอติน ธาตุเหล็ก เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการบำรุงเส้นผม ช่วยเร่งผมให้ยาว ซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถทำควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ได้
2.ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม
อย่างที่ทราบกันว่าการใช้ความร้อนกับเส้นผมเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผมแห้งเสีย ชี้ฟู ผมแตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก ซึ่งวิธีรักษาผมแห้งเสียที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าจำเป็นต้องทำหากอยากกลับมาผมสวยคือ การลดใช้ความร้อนกับเส้นผม
สำหรับใครที่ชอบเป่าผมด้วยไดร์ ลองเปลี่ยนมาใช้วิธีการเป่าลมเย็นด้วยพัดลมแทน หรือแนะนำให้ค่อยๆ เช็ดผมเบาๆ พร้อมกับการเป่าพัดลมไปด้วย นอกจากการไดร์ผมแล้วยังมีการหนีบผม ม้วนลอนผมด้วยความร้อน ซึ่งแนะนำให้ไม่ทำบ่อยเกินไป โดยควรจะทำควบคู่ไปกับการบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์ไปด้วย อย่างไรก็ตามหากเป็นไปได้อยากให้ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผมให้น้อยที่สุดเพื่อสุขภาพผมที่ดี ไม่เกิดผมแห้งเสียนั่นเอง
3.ลดการใช้สารเคมีกับเส้นผม
การใช้สารเคมีกับเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นการกัดสีที่ส่งผลให้เกิดผมเสียจากการกัดสีผม รวมถึงการดัดผม ยืดผมเคราติน สารเคมีเหล่านี้จะเข้าไปทำลายเมลานิน (melanin) ในเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสีย เปราะบาง แตกปลาย ผมฟูไม่มีน้ำหนัก ดังนั้นจึงไม่ควรใช้สารเคมีกับเส้นผมมากเกินไป และควรบำรุงเส้นผมเป็นประจำหลังจากใช้สารเคมี ด้วยทรีตเมนต์หรือครีมนวด เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม
4.สระผมให้ถูกต้องตามวิธี
ถ้าอยากบำรุงผมแห้งเสีย ให้กลับมาดูดีมีน้ำหนัก การสระผมให้ถูกวิธีถือว่าเป็นสิ่งใกล้ตัวที่เป็นหนึ่งในวิธีรักษาผมแห้งเสีย เพราะถ้าหากสระผมได้ถูกวิธี ก็จะช่วยบำรุงผมเสีย และชำระล้างสิ่งสกปรกที่พบเจอมาในแต่ละวัน อีกทั้งยังทำให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงอีกด้วย
วิธีการสระผมที่ถูกต้อง
- ลำดับแรก ควรหวีผมให้เรียงตัว เพื่อไม่ให้ผมพันกัน และป้องกันผมขาดหลุดร่วงขณะสระผมได้ดี
- ทำความสะอาดหนังศีรษะด้วยน้ำเปล่า ให้น้ำเป็นตัวช่วยชำระสิ่งสกปรกออกไปเป็นด่านแรก ทำให้ช่วยประหยัดแชมพูไปในตัว แถมยังลดการใช้สารเคมีปริมาณมากกับเส้นผมอีกด้วย
- ใช้แชมพูอย่างถูกต้อง นอกจากจะใช้แชมพูสูตรที่เหมาะกับหนังศีรษะและเส้นผม หรือมีกลิ่นที่ชอบแล้ว ควรใช้แชมพูในปริมาณที่ไม่มากเกินไป ใช้ให้ถูกจุดโดยเน้นไปที่บริเวณหนังศีรษะที่มีความมัน
- ค่อยๆ นวดแชมพูลงไปบนหนังศีรษะ โดยห้ามเกาหนังศีรษะแรงๆ เมื่อสระเสร็จแล้วต้องล้างแชมพูออกให้สะอาด และอย่างลืมบำรุงเส้นผม
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม
เมื่อผมแห้งเสีย ไม่ใช่ว่าเราจะใช้ผลิตภัณฑ์อะไรก็ได้มาดูแลเส้นผม เพราะลักษณะหรือสภาพเส้นผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของเราเอง โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูที่เหมาะกับสภาพผมแต่ละประเภท มีดังนี้
- ผมธรรมดา สามารถเลือกใช้แชมพูและครีมนวดผมได้หลากหลาย ไม่จำเป็นต้องมีสูตรเฉพาะ และสามารถเลือกใช้สูตรที่มีวิตามินเติมให้เส้นผม หรือเลือกใช้แชมพูแก้ผมร่วงก็ได้เช่นกัน
- ผมแห้ง ควรเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนๆ และใช้ครีมนวดผมสูตรเข้มข้น เน้นส่วนผสมของโปรตีนและวิตามินอี เพื่อช่วยบำรุงสภาพเส้นผมแห้งมาก ให้มีความชุ่มชื้น เงางาม ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย
- ผมมัน ควรเลือกใช้แชมพูสูตรสำหรับผมมันโดยเฉพาะ จะช่วยลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมันให้น้อยลง ทำให้ผมไม่มัน ไม่เหนียว
- ผมเสีย ควรเลือกใช้แชมพูสูตรสำหรับผมทำสี ผมแห้งเสีย แล้วใช้ครีมนวดสูตรเข้มข้น หรือสูตรสำหรับผมเสียโดยเฉพาะ เพื่อที่จะช่วยให้ฟื้นฟูเส้นผมแห้งเสียจากการโดนความร้อนหรือสารเคมีต่างๆ ให้กลับมาดูสวยมีน้ำหนักอีกครั้ง
6.เลือกใช้หวี และหวีผมให้ถูกต้อง
การเลือกใช้หวีให้เหมาะกับลักษณะของเส้นผม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยแก้ผมไม่มีน้ำหนักได้เช่นกัน หรือถ้าหากเลือกใช้หวีผิดประเภทหรือหวีผมผิดวิธี ก็อาจทำให้ผมแห้ง ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก และขาดหลุดร่วงได้ โดยวิธีหวีผมที่ถูกต้อง คือ ควรหวีผมเมื่อผมแห้งสนิท และค่อยๆ สางผมเบาๆ ส่วนประเภทของหวีที่เหมาะกับผมลักษณะต่างๆ มีดังนี้
- หวีซี่ห่าง เหมาะกับผมยาว ผมหนา ผมหยิกฟู
- หวีซี่ถี่ เหมาะกับผมเส้นเล็ก
- หวีแปรงไนลอน เหมาะกับผมที่ยาวมาก
- หวีแปรงขนธรรมชาติ เหมาะกับผมเด็ก
7.ไม่หลับในขณะที่ผมเปียก
การนอนหลับขณะที่ผมยังเปียก หรือผมยังไม่แห้งสนิท ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเส้นผมเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อศีรษะทับเส้นผมกับหมอน จะกักเก็บความชื้นเอาไว้ทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะได้ รวมถึงยังสามารถเกิดการอักเสบ และทำให้ผมเสียมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นจึงควรเป่าผมให้แห้งสนิทเสียก่อนที่จะนอนหลับ
8.หมั่นบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการรักษาผมแห้งเสียคือ ต้องหมั่นบำรุงผมด้วยครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์ โดยจะใช้หลังจากล้างแชมพูสระผมเรียบร้อยแล้ว จากนั้นใช้ครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์มานวดให้ทั่วศีรษะ ปล่อยทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วค่อยล้างออก ซึ่งจะต้องเลือกใช้ครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์ที่เหมาะกับลักษณะของเส้นผมด้วยจึงจะช่วยแก้ผมเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการบำรุงผมด้วยทรีตเมนต์แล้ว หลายๆ ท่านที่มีปัญหาผมแห้งเสียสามารถนำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่มีประโยชน์ช่วยให้เส้นผมนุ่มสวย เงางาม ลดอาการผมแห้งเสีย มาบำรุงได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นพร้อมช่วยดูแล ฟื้นฟูเส้นผมที่ได้รับความเสียหายจากความร้อน โดยแนะนำใช้น้ำมันมะพร้าวบำรุงผมด้วยการชโลมให้ทั่วทั้งศีรษะทิ้งไว้นานประมาณ 20 นาที และล้างออก ทำเพียงสัปดาห์ละครั้งก็สามารถช่วยแก้ปัญหาผมแห้งเสียได้เช่นกันค่ะ
สรุปปัญหาผมแห้งเสีย
ปัญหาผมแห้งเสียถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาของเส้นผมที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพ ผมเมื่อผมแห้งเสียจะทำให้เกิดลักษณะผมชี้ฟู ไรน้ำหนัก ดูไม่สลวย จะจัดแต่งทรงไหนก็ดูไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย การบำรุงผมแห้งเสียให้กลับมามีสุขภาพดีสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการลดการใช้ความร้อน สารเคมี สระผมให้ถูกวิธี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และอื่นๆ อีกมากมาย เพียงเท่านี้ผมของคุณก็สามารถกลับมาสลวย สวย สามารถจัดแต่งทรงได้ตามที่ต้องการ
แต่สำหรับท่านใดที่มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผม และหนังศีรษะในเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผมบาง หัวล้าน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการปลูกผม ต้องการปลูกคิ้ว สามารถติดต่อรับคำปรึกษาเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้โดยตรง แบบไม่มีค่าใช้จ่าย หรือจะส่งรูปภาพอาการของเส้นผม และหนังศีรษะมาให้คุณหมอประเมินเบื้องต้นได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังต่อไปนี้ค่ะ
Website : คลินิกปลูกผม Dr.Tarinee Hair Clinic
Line : @drtarinee
Facebook : Dr.Tarinee Hair Clinic ปลูกผม รักษา ผมร่วง ผมบาง
ขอบคุณข้อมูลจาก
Paris, L., & Andavolgyi, R. (2023, February 10). how-to-fix-damaged-hair. L’Oréal Paris. https://www.lorealparisusa.com/beauty-magazine/hair-care/damaged-hair/how-to-fix-damaged-hair
Summers, J. (2019, May 2). 9 Ways to Repair, Treat & Fix Damaged Hair. https://www.matrix.com/blog/9-ways-to-repair-treat-and-fix-damaged-hair
Ferreira, M. (2019, March 8). How to Repair Damaged Hair. Healthline. https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/how-to-repair-damaged-hair